สถานการณ์ในประเทศ

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับประธานาธิบดี เซอร์จิโอ มัตตาเรลลา ของอิตาลี ที่อยู่ระหว่างการเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการว่า ได้รับ ข้อมูลว่า สหรัฐฯ กำลังวางแผนใช้อาวุธเคมีปลอม โจมตีกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย และป้ายความผิดให้แก่ทหารของรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซ้าด ขณะที่เขายืนยัน ว่า รัสเซียจะอดทนต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของตะวันตก เกี่ยวกับบทบาทของรัสเซียในซีเรีย แต่ก็หวังว่าทัศนคติเหล่านี้จะลดทอนความแข็งกร้าวลง . ด้านนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มีกำหนดจะหารือนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย หลังการประชุมของรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่ม G7 ที่เมืองลุคคาของอิตาลี เพื่อเรียกร้องให้รัสเซียสนับสนุนกระบวนการทางการเมือง ที่แท้จริงในซีเรีย และใช้อิทธิพลยุติสงครามกลางเมืองที่นองเลือดมานานถึง 6 ปี . ขณะที่นายบอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ กล่าวว่า นี่เป็นโอกาสที่ ประธานาธิบดีปูตินจะ“รีเซ็ท” ความสัมพันธ์กับตะวันตก และร่วมมือกับกองกำลังผสม ภายใต้การนำของสหรัฐฯ ต่อสู้กับกลุ่มไอเอส . ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษต้องเสียหน้า หลังจากข้อเสนอของเขา ที่ให้เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียและซีเรีย ถูกปฏิเสธโดยรัฐมนตรีต่างประเทศ G7 คนอื่นๆ ที่แย้งว่าควรสืบสวนข้อเท็จจริงเรื่องการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย ก่อนจะรีบ ออกมาตรการลงโทษใหม่ . ส่วนการเยือนรัสเซียของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กลายเป็นเดิมพันครั้งสำคัญ เมื่อเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ด่วนสรุปว่า รัสเซียรู้ล่วงหน้าว่าจะมีการใช้อาวุธเคมีโจมตี เมืองข่าน เชคุน และช่วยปกปิดด้วยการทิ้งระเบิดโจมตีโรงพยาบาลที่รักษาพลเรือน ที่ตกเป็นเหยื่ออาวุธเคมี เจ้าหน้าที่ผู้นี้อ้างว่าเขาไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ เนื่องจาก เรื่องนี้ไม่ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่สู่สาธารณชน เนื่องจากเป็นข้อมูลข่าวกรอง