สถานการณ์ในประเทศ

นายคิม ฮยองจุน เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือ ณ กรุงมอสโคว์ ของรัสเซีย ได้เตือนไปยัง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ว่า กองทัพเกาหลีเหนือมีความพร้อม และมี ศักยภาพพอที่จะตอบโต้ความท้าทายใดๆ จากสหรัฐฯ โดยแม้มีการยั่วยุเกิดขึ้นเพียง เล็กน้อยที่สุดจากสหรัฐฯ ในระหว่างการซ้อมรบ เกาหลีเหนือก็พร้อมจะส่งมอบความ โหดเหี้ยมที่สุดเป็นการตอบแทน . ขณะที่นายแธ ยอง โฮ อดีตอัครราชทูตเกาหลีเหนือ ณ กรุงลอนดอน ที่ได้ชื่อว่าเป็น ข้าราชการระดับสูงสุดที่แปรพักตร์จากเกาหลีเหนือ ในรอบ 2 ทศวรรษ เรียกร้องให้ กำจัดนายคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ โดยอ้างว่า นายคิมต้องการรักษาอำนาจของ ตัวเองไว้ ด้วยการพึ่งพาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธข้ามทวีป หรือ ICBM ที่มีศักยภาพ พอที่จะโจมตีได้ไกลถึงแผ่นดินสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร . สหรัฐฯ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น มีกำหนดซ้อมรบทางทะเลร่วมกันในสัปดาห์นี้ ภายใต้ วัตถุประสงค์เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากเรือดำน้ำของเกาหลีเหนือ ซึ่งเกาหลีเหนือ ประณามว่าเป็นการกระทำโดยปราศจากการยั้งคิด และดึงให้คาบสมุทรเกาหลี เข้าสู่สงคราม . เกาหลีเหนือ ได้รับการประเมินว่า มีนิวเคลียร์มากกว่า 8 ลูก แต่ยังไม่ได้แสดงให้เห็นว่า สามารถนำไปเป็นหัวรบติดตั้งบนจรวดที่จะยิงโจมตีไปถึงสหรัฐฯได้หรือไม่ ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือเพิ่งจะทดสอบยิงขีปนาวุธไปตกในทะเลญี่ปุ่น แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นอันตราย ต่อสหรัฐฯ . ความวิตกว่าจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ไม่ใช่แค่ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ สั่งให้ใช้ขีปนาวุธโทมาฮอว์ค โจมตีฐานทัพอากาศ ของรัฐบาลซีเรีย เพื่อตอบโต้เรื่องการใช้อาวุธเคมีทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์