สถานการณ์ในประเทศ

เมื่อเวลา 22.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการ ตำรวจนครบาล แถลงผลการจับกุม นายคมสรรณ์ โตทิม อายุ 34 ปี คนขับรถแท็กซี่ ผู้ต้องหา ข่มขืนผู้โดยสารสาวชาวเมียนมา เหตุเกิดในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ที่ห้องเช่า บริเวณถนนหัวนา-เลี่ยงเมือง ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ช่วงเย็นวานนี้(5 เม.ย.) . พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่า หลังก่อเหตุ ผู้ต้องหาเรียกรถแท็กซี่ไปที่ จ.สระบุรี และขึ้นรถ โดยสารมุ่งหน้า จ.มุกดาหาร เพื่อหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน แต่เงินไม่พอ จึงเดินทาง ร่อนเร่มาที่ จ.กาญจนบุรี กระทั่งถูกจับกุม ซึ่งผู้ต้องหาได้ชิงทรัพย์ทั้งแท็ปเล็ต และเงินสด จำนวน 9,000 บาท จากเหยื่อสาวชาวเมียนมา และใช้เงินระหว่างหลบหนีเหลือเพียง 300 บาท ผู้ต้องหารับว่าก่อนเกิดเหตุ รับเหยื่อไปส่งย่านพัฒนาการ และออกอุบายจอดรถ ลงไปปัสสาวะ ก่อนก่อเหตุดังกล่าว สำหรับการข่มขืนนั้น ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ ซึ่งจะได้ ให้แพทย์รพ.ตำรวจตรวจอย่างละเอียด พร้อมส่งเสื้อผ้าวันเกิดเหตุ ไปให้เจ้าหน้าที่ กองพิสูจน์หลักฐานตรวจอีกครั้ง . พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า ผู้ต้องหาเคยก่อเหตุคดีข่มขืนกระทำชำเราที่ จ.ระยอง ในปี 2555 ต้องโทษ 3 ปี และมีหมายจับคดีลักษณะเดียวกันที่ จ.ระยอง ในปี 2558 อีก ซึ่งกองบัญชาการ ตำรวจนครบาลจะได้ประสานท้องที่ต่อไป สำหรับการทำแผนชี้จุดนั้น ผู้ต้องหาไม่ประสงค์จะทำ ตอนนี้จะให้พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง สอบปากคำต่อไป และจากข้อมูลพบว่า ผู้ต้องหา มาขับแท็กซี่ได้ 2 วันเท่านั้น ก็ลงมือก่อเหตุ อีกทั้งยังไม่มีใบขับขี่สาธารณะ เนื่องจากถูกยึดไว้ มีเพียงสำเนาใช้ไปสมัครขับแท็กซี่ ด้านนายคมสรรณ์ ให้การว่า ไม่ได้ก่อเหตุข่มขืน อยากให้รอผลตรวจจากแพทย์ ตนขอโทษ ประชาชน แท็กซี่ และสื่อมวลชน หากรับใช้โทษเสร็จ จะกลับมารับใช้ชาติทางใดทางหนึ่ง พร้อมฝากไว้ว่า หากผู้โดยสารขึ้นรถแล้วพบแท็กซี่มีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจก็ลงจากรถได้ ควรนั่งเบาะหลังฝั่งตรงข้ามแท็กซี่ เพื่อจะได้เห็นพฤติกรรมของโชเฟอร์ได้ อย่าไปนั่งเบาะซ้าย เพราะหากรถแท็กซี่ขับชนทางซ้าย ก็จะออกมาไม่ได้ ส่วนที่มีสื่อนำเสนอว่าตนข่มขืนชาวต่างชาติ 4 ครั้งนั้น ยืนยันว่าไม่เคยกระทำเลย . เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้ กำลังประทุษร้าย หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น ชิงทรัพย์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สำหรับกางเกงยีนส์ที่ผู้ต้องหาใส่ในวันก่อเหตุมีคราบเลือด ซึ่งจะได้ส่งพิสูจน์หาข้อเท็จจริง ต่อไป