สถานการณ์ในประเทศ

พลตำรวจโทวิทยา ประยงค์พันธุ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลัง การประชุมหน่วยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อวางมาตรการ ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2560 และการบังคับใช้กฎหมายจราจร ว่า เน้นย้ำการบังคับใช้ กฎหมายอย่างเข้มงวด หลังมีคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 14-15/2560 เกี่ยวกับการบังคับใช้ กฎหมายจราจรของรถยนต์ส่วนบุคคลและรถสาธารณะ และให้เริ่มบังคับใช้จริงจัง วันนี้เป็นวันแรก . โดยวันนี้ เน้นเป็นพิเศษเรื่องการไม่สวมหมวกนิรภัยสำหรับรถจักรยานยนต์ การไม่คาด เข็ดขัดนิรภัยสำหรับรถยนต์ทุกประเภท รวมถึงการไม่มีใบอนุญาตขับขี่ เมาแล้วขับ และขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด สำหรับประเด็นการคาดเข็มขัดนิรภัยและ สวมหมวกกันน็อคนั้น หากพบผู้ฝ่าฝืนไม่คาดเข็มขัด มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีนโยบายว่า ช่วงแรกจะผ่อนปรน โดยถ้าประชาชนฝ่าฝืน จะมีโทษปรับเพียง 100-200 บาท ทั้งนี้ ค่าปรับที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ ซึ่งตำรวจ จะเป็นผู้ใช้ดุลพินิจ จะปรับในอัตรานี้ไประยะหนึ่ง ส่วนในรถโดยสารสาธารณะ จะเน้น การบังคับใช้กับผู้โดยสารที่ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ขับขี่ เพราะถือเป็นเจตนาที่จะ ละเมิดกฎหมาย . พลตำรวจโทวิทยา กล่าวต่อว่า สำหรับการบรรทุกคนบริเวณท้ายกระบะ รวมแคปของ รถกระบะแบบ 2 ประตู นั้น ไม่สามารถทำได้ แต่เจ้าหน้าที่จะผ่อนปรนการบรรทุกผู้โดยสาร ภายในแคปเป็นกรณี โดยหากพิจารณาว่ามีความจำเป็น และเดินทางไม่ไกล จะใช้การ ตักเตือน แต่หากพบการบรรทุกในเชิงรับจ้างขนส่ง เช่น รถที่ดัดแปลงให้คนนั่ง 2 ชั้น ตรงกระบะท้าย เช่นนี้เจตนาขนคนชัดเจน ก็จะถูกจับกุมดำเนินคดี ส่วนกรณีเจ้าของรถ ไปติดตั้งเข็มขัดนิรภัยที่แคปหลังนั้น ต้องผ่านการตรวจรับรองประเภทรถจากกรมขนส่ง ทางบกก่อน ถ้าได้รับการรับรอง ก็นั่งได้ แต่ถ้าไม่มีการรับรอง ก็ต้องถูกจับกุม . สำหรับการเล่นน้ำสงกรานต์ ตนเน้นย้ำประชาชนห้ามเล่นน้ำบนท้ายรถกระบะ ขณะรถเคลื่อนที่โดยเด็ดขาด แต่สามารถขึ้นเล่นน้ำบนรถกระบะได้ หากรถจอด ในบริเวณที่จัดไว้สำหรับเล่นน้ำ สำหรับมาตรการคาดเข็มขัดนิรภัยขณะโดยสาร รถสาธารณะ ไม่ได้บังคับครอบคลุมถึงรถประจำทางใน กทม. แต่จะบังคับใช้ ในรถโดยสารระหว่างจังหวัดเท่านั้น ด้าน พล.ต.อ.สุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษา (สบ.10) ยืนยันว่า การบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว ไม่ได้เป็นการเปิดช่องทางให้ตำรวจอ้างกฎหมายเพื่อเรียกค่าปรับจากประชาชน ถ้าพบเห็น สามารถถ่ายคลิปแล้วส่งมาร้องเรียนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ และตำรวจไม่ได้หวังรางวัลส่วนแบ่งค่าปรับ แต่ต้องบังคับใช้กฎหมาย เพื่อหวังลดสถิติ การเกิดอุบัติเหตุ