สถานการณ์ต่างประเทศ

เหตุระเบิดสะเทือนขวัญที่คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ 11 คน บาดเจ็บ 50 คน ในจำนวนนี้มีเด็ก รวมอยู่ด้วยอย่างน้อย 3 คน เกิดขึ้นบนรถไฟใต้ดินขณะวิ่งอยู่ระหว่างสถานีเทคโนโลกิเชสกี กับสถานีจตุรัสเซนนายา ในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมืองใหญ่อันดับ 2 ของรัสเซีย เมื่อเวลา 14.40 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 18.40 น. ตามเวลาประเทศไทย และพบระเบิดอีกลูก ยังไม่ทำงานที่สถานีวอสตานิยาในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก แต่ถูกกู้ทำลายแล้ว . ภาพที่ถูกเผยแพร่เป็นครั้งแรก แสดงให้เห็นศพ, เลือด และเศษซากต่างๆ ภายในตู้รถไฟ ที่ยับเยินเพราะแรงระเบิด ตำรวจระบุชื่อผู้ต้องสงสัยว่า “มัคซิม อาริเชฟ” วัย 22 ปี มาจาก คาซัคสถาน สวมเสื้อแจ็คเก็ตกันหนาวมีขนสัตว์ที่คอ ที่เรียกว่า“ปาร์กา” สวมแว่นตา และ หมวกสีเขียว สะพายเป้ไว้ด้านหลัง แม้ตอนแรกจะมีการออกหมายจับผู้ต้องสงสัย 2 คน แต่ทางการเชื่อว่า คนร้ายน่าจะมีคนเดียว และจากข้อมูลข่าวกรอง ระบุว่า ระเบิดลูกที่สอง ที่เขาเอาไปวาง ถูกทำให้เหมือนอุปกรณ์ดับเพลิง ซึ่งถูกพบและกู้ทำลายได้ทันท่วงที . นอกจากนี้ ยังมีมีคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ทางออนไลน์ แสดงให้เห็น ผู้โดยสารหลายคน พากันกระโดดออกทางหน้าต่างของตู้โดยสาร หลังเกิดระเบิด . เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เป็นบ้านเกิดของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ซึ่งรับทราบข่าวนี้ ขณะอยู่ระหว่างการเจรจากับประธานาธิบดีของเบรารุส เขาได้แสดงความเสียใจ ต่อครอบครัวผู้เคราะห์ร้าย และตอนแรกเขาต้องการไปยังจุดเกิดทันที แต่เจ้าหน้าที่ รักษาความปลอดภัยได้รั้งไว้ หลังจากนั้น ปรากฏภาพเขาไปวางดอกไม้ที่สถานีรถไฟ เทคโนโลกิเชสกี . ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า ผู้ต้องสงสัยอาจจะทิ้ง กระเป๋าบรรจุระเบิดไว้ในตู้โดยสาร ขณะที่ตำรวจเชื่อว่า คนร้ายเป็นมือระเบิดฆ่าตัวตาย ด้านนายดมิทรี่ เพสคอฟปฏิเสธกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่า ประธานาธิบดีปูติน มีกำหนด จะเดินทางผ่านไปทางสถานีรถไฟจตุรัสเซนนายา ในช่วงที่เกิดระเบิด