สถานการณ์ในประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึก ข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง 4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข พร้อมมอบนโยบาย การบูรณาการความร่วมมือการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต กลุ่มเด็กปฐมวัยและผู้สูงอายุ ซึ่งตั้ง เป้าหมาย “เด็กไทยเติบใหญ่มีคุณภาพ ผู้สูงวัยเป็นหลักชัยของสังคม มุ่งสู่ประเทศไทย 4.0” ภายในปี 2564 . นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มาวันนี้ เหมือนมาทำสัญญาสงบศึกหรือสัญญาปรองดอง เป็นเรื่อง ทำให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าให้ได้ วันนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งในอีก 6 ปีข้างหน้า ผู้สูงอายุจะมีจำนวนมาก เราจึงต้องเตรียมความพร้อมให้ได้มากที่สุด และเตรียม มาตรการรองรับโดยเฉพาะด้านสาธารณสุข การทำงานทุกวันนี้ของรัฐบาล อยู่ภายในกรอบ ยุทธศาสตร์ชาติ ทั้ง 6 ด้าน เราต้องร่วมมือกันสร้างสันติสุขให้ได้โดยเร็ว ช่วยกันสร้างเด็ก ให้เป็นคนดี ถ้าเราดี ทุกคนดี สังคมดี ประเทศชาติก็จะดี และเดินหน้าไปได้ . พลเอก ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้มีปัญหาเรื่องการศึกษามากพอสมควร ตนจำเป็นต้องพูด เพราะเป็นประเด็นหลักสำคัญ และมีผลกระทบต่อ นายธีระเกรียติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงศึกษาธิการด้วย ซึ่งนโยบายรัฐบาลต้องการที่จะปรับเปลี่ยนปฏิรูประบบ การศึกษาใหม่ จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากคนทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องด้านการศึกษา . ตนไม่ได้ดูถูกครู เพียงแต่มองว่าครูสาขาไหนขาดแคลน เวลาสอบบรรจุแล้วไม่ค่อยมีในสาขานั้น จึงเปิดทางให้ แต่เมื่อเข้ามาแล้ว สร้างความรู้สึกไม่ดี ก็ต้องหามาตรการที่เหมาะสม อาจจะมา เป็นพนักงานก่อนได้หรือไม่ ระหว่าง 2 ปี มีการประเมินผลทุก 6 เดือน และต้องสอบผ่าน หลักสูตรครูภายใน 2 ปี ถ้าไม่ผ่านหลักเกณฑ์เหล่านี้ ก็เป็นไม่ได้ ต้องถอดออกไป เพราะเรา ต้องการครูรุ่นใหม่มาบ้าง ไม่ได้หมายความว่าที่เรียนจบคุรุศาสตร์มา 5 ปีจะไม่ดี เพราะบางสาขา จำเป็นต้องเอาคุณวุฒิที่จบมาโดยตรงมาสอน ตอนนี้มีปัญหาดูจากผลสอบโอเน็ต เราต่ำทุกตัว จะไม่แก้ไขและอยู่แบบเดิมไม่ได้ ก็ต้องร่วมมือกันแก้ไข และหวังว่ารัฐมนตรีของตนจะไม่ถูกถอดถอน เห็นมีการลงชื่อกันอยู่