สถานการณ์ในประเทศ

พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ NLD ภายใต้การนำของ นางอองซาน ซูจี กำลังจะฉลองครบรอบ 1 ปี ของการกุมบังเหียนรัฐบาลพลเรือนเมียนมาอย่าง เป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2559 หลังคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปอย่าง สวยงาม ท่ามกลางความหวังว่าจะเข้ามาปฏิรูปหนึ่งในประเทศที่ได้ชื่อว่า ยากจนที่สุด ในอาเซียน แต่จากการประเมินของธนาคารโลก พบว่า การลงทุนจากต่างประเทศ หดลงไปราว 30 เปอร์เซ็นต์ ในปีงบประมาณที่กำลังจะสิ้นสุดในวันที่ 31 มีนาคม ขณะที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างชะลอตัวที่ 6.5 เปอร์เซ็นต์ . นอกจากนี้ ยังเผชิญปัญหารุมเร้า ทั้งเรื่องที่สหประชาชาติจะเข้าไปสืบสวนรายงาน เรื่องเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงข่มขืนและสังหารชาวมุสลิมโรฮิงญาในรัฐยะไข่ ขณะที่ การสู้รบในพื้นที่ภาคเหนือ ระหว่างกองทัพกับกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ ส่งผลให้ราษฎร หลายหมื่นคนต้องอพยพหนีข้ามชายแดนไปยังประเทศอื่น ก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับ ความยั่งยืนของการประชุมว่าด้วยการสร้างสันติภาพที่เปิดตัวอย่างเอิกเกริกเมื่อเดือน สิงหาคม . ที่สร้างความผิดหวังให้มากที่สุด คือเรื่องนโยบายเศรษฐกิจ ที่ไม่อาจดึงดูดการลงทุน ได้อย่างที่หวัง ทั้งที่มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่มีต่อมายาวนานถึง 2 ทศวรรษ จะถูกยกเลิกไปแล้ว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน มองว่า ประชาคมธุรกิจยังกังวลว่า ความเปลี่ยนแปลงจะไม่เกิดขึ้นรวดเร็วและชัดเจนพอ . นักวิเคราะห์มองว่า ปัญหาสำคัญคือ การที่บุคคลที่เข้ามาบริหารประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ในรัฐบาลกลางหรือท้องถิ่น ต่างไร้ประสิทธิภาพ เพราะส่วนใหญ่ไม่เคยจับงานบริหาร และใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในเรือนจำ นักวิเคราะห์ บอกว่า สิ่งที่ประชาชนต้องการคือ รัฐบาลที่มีความรู้ ความสามารถ และมีบุคลากรที่แก้ปัญหาได้ทุกจุด ไม่ใช้รีบร้อน ทำทุกอย่าง แต่ไม่ได้ดีสักอย่าง