สถานการณ์ในประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25มี.ค.) กรุงเทพมหานคร และมูลนิธิสิ่งแวดล้อมศึกษา เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ประเทศไทย) จะจัดกิจกรรม “ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลด โลกร้อน ” ภายใต้แคมเปญ “ปิดเพื่อโลก เปลี่ยนเพื่ออนาคต” พร้อมกับเมืองใหญ่ทั่วโลก ตามเวลาท้องถิ่นของแต่ละเมือง ซึ่งเป็นกิจกรรมได้จัดขึ้นตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา โดยปิดไฟที่ไม่จำเป็น เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 20.30 - 21.30 น. ซึ่งกิจกรรม ปี 2559 พื้นที่กรุงเทพ สามารถลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าได้ 2,020 เมกกะวัตต์ เท่ากับ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 1,057 ตัน คิดเป็นมูลค่า 8.03 ล้านบาท . สำหรับปีนี้ กทม. และมูลนิธิสิ่งแวดล้อมศึกษา ตั้งเป้าลดการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพ ไม่น้อยกว่า 2,000 เมกะวัตต์ ซึ่ง กทม. กำหนดจุดปิดไฟเชิงสัญลักษณ์ ที่วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร เสาชิงช้า และสะพานพระราม 8 รวมถึง รณรงค์การปิดไฟบนถนนสายหลัก ได้แก่ ถนนสีลม ถนนรัชดาภิเษก ถนนข้าวสาร ถนนเยาวราช และถนนเพชรบุรีตัดใหม่ . ขณะเดียวกัน ในแต่ละกลุ่มเขตของ กทม. ได้กำหนดแลนด์มาร์ค เพื่อร่วมกิจกรรมปิดไฟ ประกอบด้วย 1.กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลรามอินทรา 2.กลุ่มเขต กรุงเทพตะวันออก ที่ห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอร์แลนด์ 3.กรุงเทพกลาง ที่ตึกใบหยก . 4.กรุงเทพใต้ ที่เอเชียทีค 5.กรุงธนเหนือ ที่ห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง 6.กรุงเทพใต้ ที่ห้างสรรพสินค้าซีคอน บางแค และเดอะไบร์ท พระราม 2 . โดยประสานเครือข่ายอาคารสูงไม่น้อยกว่า 10 แห่ง ร่วมปิดไฟในวันดังกล่าว กทม.ยังเชิญชวนจังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ระยอง ขอนแก่น นครราชสีมา อุดรธานี ศรีสะเกษ เชียงใหม่ และภูเก็ต ร่วมกันรณรงค์กิจกรรมปิดไฟ . ทั้งนี้ ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา ทำให้สามารถลดการใช้ไฟฟ้าได้ 14,344 เมกะวัตต์ คิดเป็น มูลค่า 49.01 ล้านบาท และสามารถลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 72,171 ตัน เท่ากับการดูดซับของต้นไม้ 790,000 ตัน