สถานการณ์ในประเทศ

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงเหตุก่อการร้าย บริเวณอาคารรัฐสภากรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อคืนตามเวลาประเทศไทย ว่า หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ติดตามสถานการณ์ อย่างต่อเนื่อง และสั่งการให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเกาะติดข่าว กำชับให้เฝ้าระวังไม่ให้เกิด เหตุขึ้นในประเทศไทย โดยระบุว่า เหตุที่เกิดขึ้นในกรุงลอนดอนเป็นรูปแบบของการ ก่อการร้ายรูปแบบใหม่ ที่จะใช้ผู้ปฏิบัติการน้อย แต่หวังผลเสียหายต่อผู้คนจำนวนมาก ซึ่งเป็นรูปแบบที่หน่วยความมั่นคงติดตามเฝ้าระวัง . อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลด้านการข่าวที่ติดตามมาอย่างต่อเนื่องพบว่า ไม่มีนัยยะใดที่ส่ง ผลกระทบต่อประเทศไทย และประเทศไทยก็ไม่ใช่คู่ขัดแย้งของประเทศใดที่จะนำมาสู่เหตุ ก่อการร้ายภายในประเทศ โดยตำรวจไทยและตำรวจประเทศต่างๆ โดยเฉพาะอังกฤษ ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร เพื่อดูแลความสงบปลอดภัยอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว แต่ขณะนี้ ยังไม่มีสัญญาณใดที่น่ากังวลในประเทศไทย ทั้งนี้ จะไม่ประมาท โดยผู้บัญชาการตำรวจ แห่งชาติสั่งการยกระดับการดูแลความปลอดภัยในสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น สถานที่ ราชการ ท่าอากาศยาน สถานีขนส่ง แหล่งการค้า ย่านธุรกิจ ให้เข้มข้นขึ้น หลังเกิดเหตุที่ อังกฤษ . พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวด้วยว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยังสั่งการให้ตำรวจทั่วประเทศเพิ่มการ ดูแลและเข้าตรวจตราเป็นพิเศษ เพิ่มความถี่ในการตรวจ สำหรับสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล และธุรกิจแหล่งพักอาศัย แหล่งรวมตัว ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยวของชาว ต่างชาติ โดยเฉพาะของประเทศอังกฤษที่มีที่ตั้งในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อสร้างความมั่นใจ และป้องกันการเกิดเหตุไม่สงบ แม้ว่าที่ผ่านมา จะมีการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มข้น อยู่แล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้น จำเป็นจะต้องเพิ่มความเข้มเป็นพิเศษ . นอกจากนี้ ยังสั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพิ่มความเข้มข้นในการคัดกรองบุคคล เข้าออกประเทศ เพื่อป้องกันการลักลอบเดินทางเข้าออกของบุคคลผู้ไม่หวังดี ซึ่งยืนยัน อีกครั้งว่า การข่าวที่ประสานงานกันระหว่างหน่วยข่าวของตำรวจ หน่วยข่าวความมั่นคง ตลอดจนหน่วยข่าวของประเทศต่างๆยังไม่พบความเคลื่อนไหวใดที่จะกระทบต่อความ ไม่สงบในประเทศไทย แต่การยกระดับมาตรการการดูแลความปลอดภัย ก็เพื่อความ ไม่ประมาท และสร้างความมั่นใจและป้องกันเหตุ