นานา ไรบีนา ถึงสอบสวนกลาง ผู้เสียหาย 17 ราย สูญ 190 ล้าน
3 ธันวาคม 2568 11:12 น.
กทม.ชวนคนกรุง Work From Home รับมือวิกฤตฝุ่นพิษพุ่งแตะระดับสีส้ม 35 เขต 3 ธ.ค. 68 11:12 น.
3 ธันวาคม 2568 11:12 น.
3 ธันวาคม 2568 11:12 น.
21 พฤศจิกายน 2568 10:11 น.
24 พฤศจิกายน 2568 09:11 น.
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายนายทักษิณ ชินวัตร แถลงข่าวกรณีรัฐบาล พยายามเรียกเก็บภาษีจาการขายหุ้นชินคอร์ปเมื่อปี 2549 จำนวน 329.2ล้านหุ้น ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใครมีเจตนาไม่ชำระภาษี แต่การขายหุ้นดังกล่าว ไม่มีภาระภาษี ตามกฎหมาย เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเคยมีคำพิพากษาจากศาลภาษีอากรกลาง สรุปความตอนหนึ่งได้ว่า หุ้นที่นายพานทองแท้ และ นางสาวพิณทองทา ชินวัตร ซื้อมาจากแอมเพิลริช เป็นของนายทักษิณและภรรยา //นายพานทองแท้ และ นางสาว พิณทองทา เป็นเพียงผู้ถือหุ้นแทน ไม่ใช่เจ้าของที่แท้จริงของหุ้น ธุรกรรมซื้อขายดังกล่าว จึงถือเสมือนว่าไม่ได้เกิดขึ้น จึงไม่มีเงินได้และภาระภาษี เพราะถือว่าเป็นของนายทักษิณ และภรรยามาตั้งแต่ต้น . นอกจากนี้ การขายหุ้นชินคอร์ป ให้กลุ่มเทมาเส็ก ได้ขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ไม่ได้ขายนอกตลาด จึงไม่มีภาระภาษีตามกฎกระทรวงฉบับที่ 126 ข้อ 2 (23) ซึ่งกฎหมายนี้ ใช้บังคับกับทุกคนไม่มีข้อยกเว้น ขณะเดียวกัน เงินที่ได้จากการขายหุ้นชินคอร์ปและเงินปันผล จากหุ้นประมาณ 46,000 ล้านบาท ถูกยึดตกเป็นของแผ่นดินไปตั้งแต่เมื่อ 8 ปีที่แล้ว . นายนพดล กล่าวด้วยว่า การขายหุ้นชินคอร์ปเกิดขึ้นมาสิบปีแล้ว คิดว่าประเด็นภาษี เกี่ยวกับเรื่องนี้น่าจะได้ข้อยุติไปนานแล้ว แม้แต่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยังให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้กรมสรรพากร ระบุอาจดำเนินการไม่ได้ แต่มีการอธิบายว่า เป็นอภินิหารทางกฎหมาย เพราะเจอช่องทางที่สมควรจะเสี่ยงดู ในเรื่องที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ หลายคนตั้งคำถามว่าจะเสี่ยงไปทำไม ในเมื่อกรมสรรพากร ให้ความเห็นชัดเจนไปแล้ว โดยส่วนตัว ศึกษากฎหมายมา ก็พึ่งเคยได้ยินคำอภินิหารทางกฎหมายเป็นครั้งแรก แต่ที่ได้ยินมานาน และเห็นว่าสิ่งที่นักกฎหมายต้องปฏิบัติตามคือหลักนิติธรรม ตนเองเห็นว่า ในยามที่เราต้องการสร้างความปรองดอง หลักนิติธรรมจะนำเราไปสู่ความปรองดองแน่นอน ไม่ต้องเสี่ยง