สถานการณ์ในประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวในรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตอนหนึ่งว่าขอร้องบรรดาบุคคล กลุ่มบุคคล ที่พยายามหรือเจตนาจะบิดเบือนการทำงานของรัฐบาลและคสช.โดยจับเอาเรื่อง เล็กๆน้อยๆ หรือเรื่องส่วนตัว มาทำให้สังคมสับสนเพื่อประโยชน์ของตนเองทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตคนกลุ่มเหล่านี้ยังมีอยู่ขอร้องให้ยุติได้แล้ว ประชาชนช่วยกันตัดสินใจว่าจะให้คน เหล่านี้อยู่สร้างความเดือดร้อนให้ประเทศชาติต่อไปหรือไม่ตนเองยากให้ทุกคนแสดงความ- คิดเห็นอันเป็นประโยชน์ตนเองรับฟังทุกคน ทุกฝ่าย โดยไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย จะทำให้เกิดความ เสียหายต่อส่วนรวมกับประเทศชาติในที่สุด สื่อโซเชียลมีเดีย ขอให้พยายามเข้าใจรัฐบาลและ คสช.ด้วย ทุกคนอยากให้ประเทศไทยดีขึ้นไม่ต้องการให้ทุกคนมาช่วยเชียร์ตนเองขอให้ข่าว หรือเสนอข่าวโดยใช้ข้อเท็จจริง แล้วที่จำเป็นต้องให้ประชาชนเรียนรู้ขอให้ข้อมูลด้วยสิ่งที่เป็น เรื่องจริงที่ต้องชี้แจงในการปฏิบัติ อะไรกำลังทำอยู่ อะไรที่ยังไม่ได้ท . นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่ารัฐบาลพร้อมจะสนับสนุนการทำที่ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะในอดีต หรือปัจจุบัน รัฐบาลและคสช. พยายามใช้กฎหมายปกติ อำนาจหน้าที่ขององค์กรอิสระ กระบวนการยุติธรรม เป็นผู้ดำเนินการซึ่งไม่ได้มุ่งหวังจะใช้มาตรา 44 ไปใช้ด้วยเจตนาร้าย ขอให้ทุกคนได้เข้าใจว่าทำเพื่อให้เกิดการบูรณาการ แล้วนำเข้าทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการ- ยุติธรรมใช้กฎหมายปกติเท่านั้นเช่นกรณีธรรมกายแก้ปัญหาไม่รุนแรงยืนยันว่าไม่รังแกใคร รัฐบาลและ คสช.พยายามดำเนินการทุกมาตรการ ด้วยความระมัดระวัง รอบคอบ เพื่อยุติ ปัญหา และรักษากระบวนการยุติธรรมของประเทศ ไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง ไม่ได้ทำ ตามอำเภอใจ หรือทำตามความรู้สึก หรือทำงานด้วยความกดดัน เพราะว่าสถาบันศาสนานั้น เป็นหนึ่งในสถาบันหลักของชาติ “การใช้มาตรา 44 นั้นมีความจำเป็น เนื่องจากกฎหมายปกติ ถูกละเมิด แล้วใช้กฎหมู่ซึ่งการกฎหมายอื่น เช่น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กฎอัยการศึกจะรุนแรงเกินไป เพราะความมุ่งหมายเพื่อจะตรวจค้น นำตัวผู้กระทำความผิดและมีหมายจับของศาลมา ดำเนินคดีตามกฎหมาย ถ้าไม่ผิดคงไม่มีหมายศาลไปจับ ไม่ใช่รังแกใครทั้งสิ้น