สถานการณ์ในประเทศ

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีรัฐบาลเตรียมเรียกจัดเก็บ ภาษีหุ้นชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ศาลฎีกาได้พิพากษายึดทรัพย์ไปแล้ว 46,000 ล้านบาท ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น การที่ จะเรียกเก็บภาษีทั้งที่ศาลฎีกาตัดสินไปแล้ว ขอให้เห็นใจกัน เพราะขณะนี้ยังไม่รู้ว่ารัฐบาล จะใช้กฎหมายใด วิธีใด หรือรายละเอียดใด อย่าให้กฎหมายเป็นเครื่องมือของฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งเพื่อที่จะไล่ล่า กฎหมายจะต้องคำนึงถึงความยุติธรรม ควรจะบังคับใช้กับทุกคน อย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน ไม่ใช่แค่ครอบครัวหรือผู้ที่มีผลกระทบเท่านั้น เชื่อว่าประชาชน ทุกคนก็คงอยากจะฟังคำชี้แจงจากรัฐบาลอย่างชัดเจน . เมื่อถามว่ากรณีนี้จะกระทบกับการสร้างความปรองดองหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า กรณีของตนเกิดขึ้นแล้ว ตามที่ได้ร้องขอความเป็นธรรมเรื่องจำนำข้าว และคงจะเกิดขึ้น เรื่อยๆ ถ้าเป็นการไล่ล่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่เกิดความเสมอภาค ก็ไม่เห็นว่าอนาคตจะ ก้าวข้ามไปได้อย่างไร เราเป็นผู้ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว ต้องไปถามผู้ที่ถือกติกาว่า ความหมายของคำว่าปรองดองคืออะไร ส่วนข้อเสนอการสร้างความปรองดองของ พรรคเพื่อไทยนั้น อยากให้ผู้ที่มีความเป็นกลางมาร่วมเป็นกรรมการด้วย . ส่วนกรณีสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. จะตรวจสอบการเสียภาษีนักการเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินนักการเมืองอยู่แล้ว ซึ่งยังไม่ทราบรายละเอียดว่า สตง. จะดำเนินการอย่างไร