สถานการณ์ในประเทศ

.เช้าวันนี้ กองร้อยทหารพรานที่1201 สนธิกำลังกับตรวจคนเข้าเมือง จ.สระแก้ว และ ตำรวจ สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ร่วมกันออกลาดตะเวน และเฝ้าตรวจป้องกันและ สกัดกั้นการลักลอบข้ามเขตแดนตามช่องทางธรรมชาติ แนวตะเข็บชายแดน ท้ายตลาด โรงเกลือ เน้นตรวจสอบกลุ่มบุคคลเป้าหมายและพระภิกษุ เพื่อป้องกันการลักลอบ หลบหนีออกนอกประเทศของพระธัมมชโย ตามคำสั่งของ พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และ พล.ต.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการ กองกำลังบูรพา . ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการร่วมฯ ออกลาดตระเวนมาถึงบริเวณท้ายตลาดเบญจวรรณ ทิศเหนือตลาดโรงเกลือ พื้นที่ หมู่ 7 บ้านดงงู ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พบกลุ่ม บุคคลกว่า 10 คน กำลังมุดรั้วตะเข็บชายแดนจากฝั่งกัมพูชา เดินลัดเลาะป่าละเมาะ ข้ามเข้ามาในประเทศไทย เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าปิดล้อม และควบคุมตัวไว้ได้ 14 คน เป็นชาย10 คน หญิง 4 คน สอบถามทราบว่าเป็นชาวกัมพูชา ไม่มีเอกสารการเดินทาง จึงควบคุมตัวไปทำการสอบสวนที่กองร้อยทหารพรานที่ 1201 . ห่างกันประมาณ 50 เมตร เจ้าหน้าที่ตรวจพบกลุ่มชาวกัมพูชา อีกกว่า 10 คน กำลังลักลอบ มุดรั้วตะเข็บชายแดนจากฝั่งกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทย จึงปิดล้อมจับกุมไว้ได้อีก 12 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 7 คน และด.ช. 2 คน เป็นชาวกัมพูชา ไม่มีเอกสารการเดินทาง จึงคุมตัว มาสอบสวนที่กองร้อยทหารพรานที่1201 . ร.อ.อภินันท์ สงครามชัย ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่1201 เปิดเผยว่า ชาวกัมพูชาทั้ง 26 คน ไม่มีเอกสารการเดินทาง ลักลอบข้ามตะเข็บชายแดนเข้ามา อ้างว่าหนีความแห้งแล้งและ ไม่มีงานทำในกัมพูชา หวังไปทำงานหาเงินใน กทม. ซึ่งเจ้าหน้าที่แนะนำให้กลับไปทำหนังสือ เดินทางเข้ามาทำงานในประเทศไทยอย่างถูกต้อง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์และ แก๊งหลอกลวง . พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รองผู้กำกับการ ตม.จ.สระแก้ว เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 5 -12 มี.ค. ชุดปฏิบัติการร่วม ตม.-ทหารพราน-ตร.คลองลึก สามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา ที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามช่องทางธรรมชาติตะเข็บชายแดน ได้ 86 คน เป็นชาย 43 คน หญิง 39 คน ด.ช. 3 คน และ ด.ญ. 1คน ซึ่งได้ทำประวัติและประสานเจ้าหน้าที่ด่าน ตม. ปอยเปต ผลักดันกลับประเทศกัมพูชาไปแล้ว . นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาที่ลักลอบไปทำงานใน กทม. และเดินทางกลับประเทศ โดยสารมากับรถไฟสาย กทม.-อรัญประเทศ ได้อีก 239 คน เป็นชาย 137 คน หญิง 102 คน ซึ่งได้ทำประวัติและผลักดันกลับประเทศไปหมดแล้ว