สถานการณ์ในประเทศ

กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 ผู้ดูแลอาคารสถานที่ภายในวัดพระธรรมกาย กว่า 10 คน นำเอกสารระบุตัวตน เข้ารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ตามที่ถูกออกคำสั่งเรียกตัว โดย พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหาร คดีพิเศษ และรองโฆษก ดีเอสไอ รับตัว และนำรายงานตัวต่อ ผู้บัญชาการสำนักปฏิบัติการ คดีพิเศษภาค และผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม เพื่อซักถาม รวมขณะนี้มีบุคคลในกลุ่มนี้เข้ารายงานตัวแล้ว 17 คน ขาดอยู่เพียง 2 คน . ต่อมา นายวุฒิสาร พนารี ผู้ประสานงานมวลชนวัดพระธรรมกาย พร้อมด้วย นายอัยย์ เพรชทอง ลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย เข้าพบดีเอสไอ ตามคำสั่งเรียกให้มารายงานตัว นายวุฒิสาร กล่าวว่า จะปฏิบัติตามเงื่อนไขของเจ้าหน้าที่ ถ้ามีคำสั่งหรือระเบียบใด ๆ พร้อมปฏิเสธว่าที่ผ่านมา ไม่ได้ ปลุกปั่น เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานเท่านั้น . ด้านนายอัยย์ กล่าวว่า คดีของตนเอง อยู่ระหว่างเตรียมเข้าพบพนักงานอัยการ ในวันที่ 22 มี.ค.นี้ ที่สำนักงานอัยการจังหวัดธัญบุรี เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการขัดขวางและปลุกระดม ในพื้นที่ ตามมาตรา 44 จะขอปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาล อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่ได้ห้ามอะไร นอกจากห้ามเข้าพื้นที่บริเวณวัดพระธรรมกายและตลาดกลาง- คลองหลวง จ.ปทุมธานี ร่วมถึงให้งดให้สัมภาษณ์ที่จะเป็นการปลุกระดม . ขณะที่ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ กล่าวว่า ดีเอสไอออกคำสั่งเรียกให้บุคคลเข้ารายงานตัวอีก 96 คน รวมบุคคลที่ดีเอสไอออกคำสั่งเรียกให้มารายงานตัวแล้วประมาณ 164 คน ส่วนกรณีชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณรอบพื้นที่ ที่มีการขุดคูคลองเป็นแนวสกัดการเข้า ตรวจค้นของเจ้าหน้าที่นั้น ได้ประสานให้อำเภอคลองหลวงได้เข้าไปดูแลแล้ว . ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายนี้ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ร่วมกับกองบินตำรวจ รนำเฮลิคอร์ปเตอร์ ขึ้นบินสำรวจบริเวณรอบพื้นที่วัดพระธรรมกาย โดยเฉพาะบริเวณอาคารบุญรักษา ที่มีการ ขุดคูคลองและพบถังน้ำมัน