จาเมการับมือเฮอริเคน ‘เมลิสซา’ รุนแรงระดับ 5
28 ตุลาคม 2568 10:10 น.
สื่ออิสระเผยเหมืองแรร์เอิร์ธผุดทั่วลาว ทำลำน้ำโขงเสี่ยงภัย 28 ต.ค. 68 10:10 น.
28 ตุลาคม 2568 10:10 น.
27 ตุลาคม 2568 09:10 น.
22 ตุลาคม 2568 09:10 น.
22 ตุลาคม 2568 09:10 น.
เว็บไซต์ Mongabay ซึ่งเป็นองค์กรสื่ออิสระและไม่แสวงหากำไรที่มุ่งเน้นรายงานปัญหาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและโลกผ่านเครือข่ายผู้สื่อข่าวท้องถิ่น อ้างผลการวิจัยของศูนย์สติมซัน (Stimson Center) ที่เป็นหน่วยงานวิจัยในสหรัฐฯ ว่า นับตั้งแต่ปี 2565 มีการทำเหมืองแรร์เอิร์ธ 27 แห่งตามลุ่มแม่น้ำในลาว ในจำนวนนี้ 10 แห่งอยู่ที่แม่น้ำฮาวและแม่น้ำซัน บริเวณลุ่มแม่น้ำม่าที่ไหลผ่านลาวและเวียดนาม ขณะที่อีก 15 แห่งอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำโขง โดยอยู่ที่แม่น้ำคาน 12 แห่ง และแม่น้ำเงี้ยบ 3 แห่ง แม่น้ำโขงซึ่งมีความยาว 4,900 กิโลเมตรมีต้นน้ำจากทิเบต ไหลผ่านเมียนมา ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ก่อนไหลลงสู่ทะเลจีนใต้ ลุ่มแม่น้ำนี้เป็นจุดที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นแหล่งอาหาร น้ำ และยังชีพของประชาชนมากกว่า 50 ล้านคน
Mongabay ระบุว่า การทำเหมืองแรร์เอิร์ธในเมียนมาได้ทำให้ชุมชนปลายน้ำที่อยู่ในไทยล้มป่วย นำมาซึ่งการสืบสวนสอบสวนและเปิดโปงผลกระทบที่เป็นพิษจากการทำเหมืองอย่างไร้การควบคุมตามลำน้ำ ขณะที่ในลาวมีการควบคุมเสรีภาพสื่อมวลชนและการรวมตัวของชุมนุมอย่างเข้มงวด ท่ามกลางการเปิดเหมืองใหม่ ๆ โดยไร้การกำกับดูแลจากรัฐบาล จึงไม่มีเสียงร้องเรียนให้ได้ยิน ผลการตรวจสอบแม่น้ำในลาวเมื่อเดือนกรกฎาคม โดยได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงชี้ว่า สารหนูปนเปื้อนที่มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นน่าจะมีที่มาจากแหล่งที่อยู่นอกพรมแดน ซึ่งน่าจะหมายถึงน้ำเสียปนเปื้อนจากเหมืองแรร์เอิร์ธในเมียนมาที่ได้ก่อมลพิษในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำรวกในไทย แล้วไหลลงแม่น้ำโขงบริเวณพรมแดนไทย-ลาว
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า รัฐบาลกลางลาวได้ห้ามการทำเหมืองแรร์เอิร์ธตั้งแต่ปี 2560 แต่บริษัทเหมืองได้หลบเลี่ยงด้วยการสร้างสายสัมพันธ์อันดีกับทางการท้องถิ่น ขณะนี้ทางการกำลังปรับแก้ไขกฎระเบียบ ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติได้เข้าแถวรอฉวยประโยชน์จากทรัพยากรของลาวแล้ว บริษัทจีนดูเหมือนจะได้เปรียบ เนื่องจากถือครองสัมปทานที่ดินในลาวประมาณร้อยละ 30 หรือราว 1.79 ล้านไร่ตามข้อมูลปี 2559
ปี 2566 ลาวส่งออกแรร์เอิร์ธมูลค่า 104 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,400 ล้านบาท) คิดเป็น 1 ใน 10 ของที่เมียนมาส่งออก 1,440 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 47,090 ล้านบาท) ในปีเดียวกัน และทั้งสองประเทศต่างส่งออกไปยังจีนเพียงประเทศเดียว
ชาวลาวที่อาศัยอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ศูนย์สติมซันระบุว่ามีเหมืองแรร์เอิร์ธมากที่สุดเปิดเผยว่า ปัญหาจากการทำเหมืองกำลังเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางเนื่องจากมีการทำเหมืองเพิ่มขึ้น ขณะที่แหล่งข่าวระบุว่า ปัญหาใหญ่ที่สุดคือการตัดไม้ทำลายป่า เหมืองแรร์เอิร์ธส่วนใหญ่ได้รับอนุญาตจากทางการท้องถิ่นที่ขอส่วนแบ่งกำไร ขณะที่ความพยายามควบคุมของรัฐบาลกลางก็แทบไม่มีความคืบหน้า ชาวบ้านไม่สามารถประท้วงหรือร้องเรียน เนื่องจากนักลงทุนชาวจีนมักรู้จักกับชนชั้นนำในท้องถิ่น บางแห่งถึงกับจ้างทหารหรือตำรวจมารักษาความปลอดภัยเหมืองด้วย
#mcot