"คนละครึ่งพลัส" 5 วันแรก ยอดใช้จ่ายทั่วไทยทะลุหมื่นล้าน
3 พฤศจิกายน 2568 11:11 น.
เครื่องบินขนส่งสินค้าของยูพีเอสตกในเคนทักกี คร่า 4 ชีวิต 5 พ.ย. 68 10:11 น.
3 พฤศจิกายน 2568 11:11 น.
28 ตุลาคม 2568 10:10 น.
28 ตุลาคม 2568 10:10 น.
31 ตุลาคม 2568 10:10 น.
“ไมโครพลาสติก” เป็นหนึ่งในปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญที่สุดในยุคนี้ มีรายงานมาอย่างต่อเนื่องว่านักวิจัยค้นพบไมโครพลาสติกในสถานที่ใหม่ ๆ อยู่เสมอ รวมถึงในร่างกายของมนุษย์ และล่าสุด ไมโครพลาสติกเข้าไปอยู่ในกระดูกของเราเป็นที่เรียบร้อย
งานวิจัยล่าสุดของคณะนักวิจัยนานาชาติ นำโดยโรดริโก บี. โอลิเวียรา ผู้ประสานงานห้องปฏิบัติการวิจัยแร่ธาตุและกระดูกในโรคไต (LEMON) คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยรัฐคัมปินัส ประเทศบราซิล (FCM-UNICAMP) ได้รวบรวมงานวิจัย 62 ชิ้นเพื่ออธิบายว่า อนุภาคพลาสติกขนาดเล็กสามารถส่งผลกระทบต่อกระดูกและไขกระดูกได้อย่างไร
การศึกษาพบว่า มีไมโครพลาสติกในกระดูก กระดูกอ่อน และหมอนรองกระดูกสันหลัง โดยมีระดับการสะสมในกระดูกเฉลี่ยหลายสิบอนุภาคต่อกรัม
เซลล์ที่สัมผัสกับไมโครพลาสติกสามารถปล่อยโมเลกุลที่ก่อให้เกิดการอักเสบ ซึ่งกระตุ้นให้วงจรการปรับโครงสร้างร่างกายดำเนินไป อนุมูลอิสระออกซิเจน ซึ่งเป็นสารเคมีชนิดหนึ่ง สามารถเพิ่มขึ้นภายในเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับกระดูกได้
บทวิจารณ์นี้ยังชี้ให้เห็นถึงผลกระทบต่อเซลล์ต้นกำเนิด “มีเซนไคมอล” ในไขกระดูก เซลล์เหล่านี้อาจเปลี่ยนสภาพไปจากกระบวนการสร้างกระดูกเมื่อสัมผัสกับอนุภาคพลาสติกบางชนิด
ไมโครพลาสติกส่งผลเสียต่อสุขภาพกระดูกในหลากหลายรูปแบบ ตัวอย่างที่โดดเด่นคือ ความสามารถในการทำลายการทำงานของเซลล์ต้นกำเนิดไขกระดูก โดยส่งเสริมการสร้าง “ออสทีโอคลาสต์” เซลล์ชนิดพิเศษที่มีหลายนิวเคลียส ทำหน้าที่หลักในการสลายเนื้อเยื่อกระดูกเก่าและเสียหาย เพื่อนำไปซ่อมแซมและสร้างกระดูกใหม่ให้แข็งแรงกว่าเดิม แต่การกำจัดออกมากเกินไป จนทำให้เกิด “การสลายกระดูก” (bone resorption) ทำให้โครงกระดูกเปราะบางลงเมื่อเวลาผ่านไป
“ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากไมโครพลาสติกต่อกระดูกเป็นประเด็นการศึกษาทางวิทยาศาสตร์และไม่สามารถมองข้ามได้ ยกตัวอย่างเช่น การศึกษาในหลอดทดลองกับเซลล์เนื้อเยื่อกระดูกแสดงให้เห็นว่าไมโครพลาสติกทำให้เซลล์มีชีวิตลดลง เร่งการแก่ของเซลล์ และเปลี่ยนแปลงการแบ่งตัวของเซลล์ นอกจากนี้ยังส่งเสริมการอักเสบอีกด้วย” โอลิเวียรากล่าว
จากการศึกษาในสัตว์พบว่า ภาวะกระดูกเสื่อมเร็วขึ้นสามารถทำลายโครงสร้างจุลภาคของกระดูก ทำให้เกิด “ภาวะดิสเพลเซีย” (Dysplasia) คือภาวะที่เซลล์มีการเจริญเติบโตหรือพัฒนาการที่ผิดปรกติ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะกระดูกอ่อนแอ กระดูกผิดรูป และอาจเกิดกระดูกหักจากพยาธิสภาพได้ โดยผลกระทบรุนแรงที่สุดที่เจอในการศึกษาคือ การเจริญเติบโตของโครงกระดูกหยุดชะงัก
นักวิจัยยังรายงานว่า ไมโครพลาสติกสามารถเข้าถึงบริเวณกระดูกชั้นใน รวมถึงไขกระดูก เมื่อกลไกของไขกระดูกถูกรบกวน การสร้างเซลล์เม็ดเลือดและการสร้างกระดูกใหม่อาจได้รับผลกระทบได้
แม้ว่านักวิทยาศาสตร์จะยังไม่เข้าใจกระบวนการทั้งหมดว่าไมโครพลาสติกส่งผลกระทบต่อกลไกของกระดูกอย่างไร แต่ข้อมูลชี้ให้เห็นว่าการมีอยู่ของอนุภาคเหล่านี้ในกระแสเลือด อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพกระดูก
“ที่น่าทึ่งที่สุดคือ งานวิจัยจำนวนมากชี้ให้เห็นว่าไมโครพลาสติกสามารถแทรกซึมลึกเข้าไปในเนื้อเยื่อกระดูก เช่น ไขกระดูก และอาจทำให้เกิดการรบกวนการเผาผลาญได้” โอลิเวียรากล่าว
ทีมของโอลิเวียรากำลังเริ่มโครงการวิจัยใหม่ เพื่อยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างการสัมผัสกับไมโครพลาสติกและความรุนแรงของโรคกระดูกเมตาบอลิก นักวิทยาศาสตร์จะใช้แบบจำลองสัตว์เพื่อศึกษาผลกระทบของไมโครพลาสติกต่อความแข็งแรงของกระดูกต้นขาของสัตว์ฟันแทะ
มูลนิธิโรคกระดูกพรุนนานาชาติ (IOF) ระบุว่า ภาวะกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุนกำลังเพิ่มขึ้นทั่วโลกเนื่องจากประชากรสูงอายุ คาดการณ์ว่าภาวะกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุนจะเพิ่มขึ้น 32% ภายในปี 2050
การพัฒนาคุณภาพชีวิตและการลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนทางกระดูก เช่น ภาวะกระดูกหัก ถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้น ๆ ของการดูแลสุขภาพ เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าแนวทางปฏิบัติต่าง ๆ เช่น การออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่สมดุล และการรักษาด้วยยา มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อเรื่องนี้
แม้ว่าโรคเกี่ยวกับกระบวนการเผาผลาญกระดูกจะเป็นที่เข้าใจกันค่อนข้างดี แต่นักวิทยาศาสตร์ยังขาดองค์ความรู้เกี่ยวกับอิทธิพลของไมโครพลาสติกต่อการเกิดโรคเหล่านี้ ดังนั้นหนึ่งในเป้าหมายของโอลิเวียรา คือการสร้างหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าไมโครพลาสติกอาจเป็นสาเหตุทางสิ่งแวดล้อมที่สามารถควบคุมได้ เพื่ออธิบายการเพิ่มขึ้นของจำนวนกระดูกหักที่คาดการณ์ไว้
#Business Standard, Earth, Science Daily