สถานการณ์ต่างประเทศ

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังยูเครนได้ส่งโดรนโจมตีท่าเรือ Primorsk ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซีย โดยท่าเรือดังกล่าวเป็นหนึ่งในท่าเรือส่งออกน้ำมันและพลังงานที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ส่งผลให้ทางการรัสเซียต้องระงับการขนถ่ายน้ำมันที่ท่าเรือดังกล่าว นอกจากนี้ รัสเซียได้ออกมาเผยว่าการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนในขณะนี้ได้หยุดชะงักลง ส่งผลให้ชาติตะวันตกอาจเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียเพิ่มเติม

โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 12 ก.ย. 2568 อยู่ที่ 62.69 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.32 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 66.99 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.62 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

กระทรวงการคลังของสหรัฐได้ออกมาเรียกร้องให้ชาติสมาชิกกลุ่ม G7 และชาติพันธมิตรในสหภาพยุโรปเพิ่มอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีนและอินเดียเพื่อกดดันทั้ง 2 ชาติให้ยุติการซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซีย เพื่อตัดเงินทุนของรัสเซียในการทำสงครามในยูเครน

อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันได้รับแรงต้านจากตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน อยู่ที่ระดับ 55.4 ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ พ.ค. 68 โดยความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับลดลงจากความกังวลต่อความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของภาคธุรกิจ การจ้างงาน ภาวะเงินเฟ้อ รวมถึงนโยบายการค้าของสหรัฐ

Thai Oil