สถานการณ์ต่างประเทศ

นายโยฮันน์ วาเดอฟูล รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีกล่าวว่า เยอรมนี ฝรั่งเศสและอังกฤษ พร้อมที่จะเปิดการเจรจาในทันทีกับอิหร่าน เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ซึ่งเป็นความพยายามในการลดสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลาง

นายวาเดอฟูล ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนตะวันออกกลาง กล่าวว่าเขากำลังพยายามมีส่วนร่วมในการลดระดับความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน โดยกล่าวว่าเตหะรานเคยพลาดโอกาสในการเจรจาที่สร้างสรรค์มาแล้วก่อนหน้านี้ เขากล่าวว่า ขณะนี้เยอรมนี ฝรั่งศสและอังกฤษ มีความพร้อม เขากล่าวว่า กำลังเสนอการเจรจาโดยทันทีเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ให้กับอิหร่าน และเขาหวังว่าข้อเสนอนี้จะได้รับการตอบรับจากอิหร่าน นายวาเดพูล ซึ่งอยู่ในระหว่างเยือนโอมานในวันอาทิตย์ กล่าวว่าความขัดแย้งจะยุติลงได้ก็ต่อเมื่อมีการใช้อิทธิพลต่อทั้งอิหร่านและอิสราเอลจากทุกฝ่าย

ในขณะเดียวกัน อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันครั้งใหม่ในช่วงข้ามคืนเข้าสู่วันอาทิตย์ ทางการอิสราเอลกล่าวว่า ทีมกู้ภัยกำลังค้นหาเศษซากอาคารที่พักอาศัยที่ถูกทำลายจากการโจมตี โดยใช้ไฟฉายและสุนัขดมกลิ่นเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต หลังจากพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 10 คน ซึ่งรวมถึงเด็กด้วย างด้านอิหร่านกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิต 78 รายในวันแรกของการโจมตีของอิสราเอล และมีผู้เสียชีวิตอีกหลายสิบคนในวันที่สอง รวมถึง 60 รายเมื่อขีปนาวุธทำให้อาคารอพาร์ตเมนต์ 14 ชั้นในกรุงเตหะรานพังถล่มลงมา ซึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิต 29 รายเป็นเด็ก

อิหร่านกล่าวว่าคลังน้ำมันชาห์ราน ในกรุงเตหะรานเป็นเป้าหมายของการโจมตีจากอิสราเอล แต่สถานการณ์สามารถควบคุมได้แล้ว สำนักข่าวแทสนิม (Tasnim) กึ่งทางการของอิหร่านรายงานวันนี้ว่า เกิดเพลิงไหม้ขึ้นที่โรงกลั่นน้ำมันใกล้กับเมืองหลวง หลังจากการโจมตีของอิสราเอล ขณะที่การโจมตีของอิสราเอลยังพุ่งเป้าไปที่อาคารกระทรวงกลาโหมของอิหร่าน ทำให้เกิดความเสียหายเล็กน้อย

ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ “ทรูธ โซเชียล” ของเขาเตือนอิหร่านว่า หากสหรัฐถูกโจมตีไม่ว่าด้วยวิธีใด รูปแบบใด หรือลักษณะใดโดยอิหร่าน แสนยานุภาพและพละกำลังทั้งหมดของกองทัพสหรัฐ จะพุ่งเข้าใส่อิหร่านในระดับที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน อย่างไรก็ตาม นายทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐสามารถทำให้มีการบรรลุข้อตกลงระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลได้อย่างง่ายดาย และยุติความขัดแย้งที่นองเลือดนี้ได้ แต่นายทรัมป์ไม่ได้กล่าวถึงรายละเอียดของความเป็นไปได้ที่จะทำให้เกิดข้อตกลงดังกล่าวได้อย่างไร