สถานการณ์ต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่นประกาศจะเดินหน้านโยบายกลาโหมที่มุ่งสกัดจีน แก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเร่งการฟื้นตัวจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาด หลังจากชนะเลือกตั้งทั่วไปอย่างเกินความคาดหมายวานนี้

นายกรัฐมนตรีคิชิดะ วัย 64 ปี แถลงข่าววันนี้ หลังจากพรรคเสรีประชาธิปไตยหรือแอลดีพี (LDP) ของเขาได้เสียงข้างมากในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวานนี้ว่า จะเร่งเดินหน้านโยบายเพื่อตอบสนองต่อคะแนนเสียงประชาชนทั่วประเทศที่มอบให้แก่พรรค หนึ่งในนั้นคือ การฟื้นฟูประเทศจากโรคโควิด-19 ด้วยการจัดทำงบประมาณพิเศษภายในสิ้นปีนี้ เริ่มโครงการอุดหนุนการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ และออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ราวกลางเดือนพฤศจิกายน

นายคิชิดะถือโอกาสนี้ย้ำเรื่องการป้องกันประเทศเพื่อเอาใจกลุ่มสายเหยี่ยวในพรรคแอลดีพีที่หนุนหลังเขาเป็นผู้นำพรรค พรรคแอลดีพีเคยชูนโยบายเพิ่มงบกลาโหม 2 เท่าเป็นร้อยละ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) เพื่อจัดหาอาวุธมาต้านทานศักยภาพทางทหารของจีนในทะเลจีนตะวันออก เขามั่นใจว่า จะสามารถเกลี้ยกล่อมให้พรรคโคเมโตะที่เป็นพรรคพันธมิตรร่วมรัฐบาลสายพิราบเข้าใจและเห็นด้วย นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังต้องพิจารณาเรื่องสร้างศักยภาพในการโจมตีฐานทัพศัตรู เพื่อเป็นทางเลือกในการต้านทานเทคโนโลยีกลาโหมของประเทศอื่นที่เพิ่มสูงขึ้น

นายคิชิดะประกาศด้วยว่า จะเดินทางไปร่วมการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP26) ที่เมืองกลาสโกว์ของสกอตแลนด์ในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะเป็นการประชุมเวทีโลกครั้งแรกของเขาในฐานะผู้นำญี่ปุ่น รัฐบาลของเขาจะลงทุนพลังงานสะอาดและให้ความช่วยเหลือเรื่องนี้แก่เอเชีย ส่วนเรื่องการใช้พลังงานนิวเคลียร์ เขาคิดว่ายังควรเป็นทางเลือกต่อไป เพราะญี่ปุ่นตั้งเป้าหมายจะเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon-neutral) ภายในปี 2593.