
“พลังงานสะอาด” ยังเป็นเทรนด์โลกอยู่ไหม?
17 กันยายน 2568 08:09 น.
กรมอุตุฯ เตือน ไทยฝนเพิ่มขึ้น กทม.ตกหนัก 80% 18 ก.ย. 68 08:09 น.
17 กันยายน 2568 08:09 น.
17 กันยายน 2568 08:09 น.
17 กันยายน 2568 09:09 น.
17 กันยายน 2568 09:09 น.
ชาวฟิลิปปินส์ 63 ล้านคนจะได้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกประธานาธิบดีในวันที่ 9 พ.ค. ปีหน้า เพื่อสรรหาผู้นำคนใหม่มาแทนประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ที่กำลังจะหมดวาระลง แม้จะเหลือเวลาอีกหลายเดือน แต่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บรรยากาศการเมืองในฟิลิปปินส์ส่อเค้าดุเดือดอย่างมาก
หลังผ่านเส้นตายลงทะเบียนรับสมัครไปเมื่อวันที่ 8 ต.ค. ปรากฏว่ามีผู้สมัครลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างน้อย 50 คน รวมไปถึง นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ หรือ "บองบอง" บุตรชายอดีตผู้นำเผด็จการเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส "แมนนี ปาเกียว" อดีตนักชกขวัญใจประชาชน "เลนี โรเบรโด" รองประธานาธิบดีคนปัจจุบันของฟิลิปปินส์ "อิสโก โมเรโน" นายกเทศมนตรีกรุงมะนิลา และ "แพนฟิโล แลคสัน" อดีตผู้บัญชาการตำรวจ
ชาวฟิลิปปินส์จำนวนมากยังคงไม่ลืมความโหดร้ายของกฎอัยการศึก 9 ปี ของอดีตประธานาธิบดีมาร์กอส ที่ประกาศใช้กวาดล้าง จับกุมฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ในช่วงทศวรรษ 70 หลังจากระบอบมาร์กอสถูกโค่นล้มลง หลังตระกูลมาร์กอสที่ลี้ภัยไปอยู่ในฮาวายได้กลับมาฟิลิปปินส์เมื่อปี 2534 บองบองได้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการ สมาชิกสภาคองเกรสและสมาชิกวุฒิสภา หลายทศวรรษที่ผ่านมาสมาชิกตระกูลมาร์กอสได้พยายามกอบกู้ภาพลักษณ์ พยายามกลับเข้าสู่เส้นทางการเมืองของฟิลิปปินส์ ท่ามกลางข้อกล่าวหาละเมิดสิทธิมนุษยชน และทุจริตเงินหลายพันล้านดอลลาร์อันเป็นสาเหตุให้ประชาชนโกรธแค้นพากันลุกฮือขึ้นมาโค่นล้ม