สถานการณ์ต่างประเทศ

รัฐบริติชโคลัมเบีย ทางตะวันตกของแคนาดา สั่งปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัย เนื่องจากเผชิญกับคลื่นความร้อนรุนแรงที่ทำให้อุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งที่เป็นประเทศที่มีฤดูหนาวยาวนานและหิมะตกหนัก

นักวิจัยทางวิทยาศาสตร์ระดับอาวุโสของหน่วยงานสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแคนาดา (ECCC) ประจำนครวิกตอเรีย ซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐบริติชโคลัมเบีย เผยว่า คลื่นความร้อนสูงถือเป็นเรื่องไม่ปกติในพื้นที่แปซิฟิกนอร์ทเวสต์ที่มักมีฝนตกเป็นเวลานานกว่าแสงแดด และคลื่นความร้อนดังกล่าวเกิดจากระบบความกดอากาศสูงที่ไม่เคลื่อนที่ อุณหภูมิจะร้อนมากในช่วงกลางวัน ไม่เย็นลงมากนักในช่วงกลางคืน และค่อนข้างที่จะคงที่ ซึ่งไม่เป็นไปตามสภาพอากาศปกติบนฝั่งตะวันตก ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า คลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าสภาพภูมิอากาศกำลังเปลี่ยนแปลง และวิทยาศาสตร์ได้ส่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับเรื่องนี้มาเป็นเวลานานแล้ว ส่วนพยากรณ์อากาศระบุว่า แคนาดาอาจเผชิญกับคลื่นความร้อนที่รุนแรงขึ้นในวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่หลายพื้นที่ทางตะวันตกของแคนาดากำลังเผชิญกับอุณหภูมิสูงสุดจนทำให้ประชาชนแห่กันไปคลายร้อนตามชายหาดและทะเลสาบ

ก่อนหน้านี้ เมืองลิตตัน ซึ่งตั้งอยู่ตอนกลางของรัฐบริติชโคลัมเบียและห่างจากเมืองแวนคูเวอร์ไปทางเหนือราว 200 กิโลเมตร รายงานว่ามีอุณหภูมิสูงถึง 46.6 องศาเซลเซียสเมื่อวันอาทิตย์ ทำสถิติอุณหภูมิสูงสุดในรอบ 84 ปีของแคนาดา ขณะที่หน่วยงานสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแคนาดาระบุว่า แคนาดาเคยบันทึกสถิติอุณหภูมิสูงสุด 45 องศาเซลเซียสในรัฐซัสแคตเชวันเมื่อปี 2480.