สถานการณ์ต่างประเทศ

สหรัฐกำลังหาช่องทางแบ่งปันวัคซีนต้านโควิด-19 กับประเทศอื่นๆ โดยเร็วที่สุด เพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐ จะจบลงไม่ได้หากยังมีการแพร่ระบาดทั่วโลก      นายแอนโทนี่ บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ แถลงว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังหาช่องทางที่จะแบ่งปันวัคซีนต้านโควิด-19 กับประเทศอื่นๆ โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐ จะจบลงไม่ได้หากยังมีการแพร่ระบาดทั่วโลก ดังนั้น รัฐบาลสหรัฐจึงนำทุกภาคส่วนมาร่วมกันหาวิธียุติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้ได้ พร้อมแนะนำตัวนางเกล สมิธ ซึ่งจะเป็นผู้ประสานงานด้านโควิด-19 กับทั่วโลก และด้านความมั่นคงทางด้านสาธารณสุข นางเกลกล่าวว่า 2 สิ่งที่สำคัญที่สุดในขณะนี้คือ การทำให้การระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกลดลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ กับให้หลักประกันในการป้องกันโรคร้ายที่จะมาคุกคามโลกในอนาคต      ด้านเว็บไซต์หนังสือพิมพ์เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์รายงานว่า มีผู้รับวัคซีนเข็มแรก 5,200 คน และเข็มที่สอง 6,500 คน รวมเป็น 11,700 คน หลังจากมีผู้รับเข็มแรกไปแล้ว 14,400 คนก่อนทางการสั่งระงับการฉีดวัคซีนขนานนี้เมื่อวันที่ 24 มีนาคม เนื่องจากเจ้าหน้าที่พบว่า วัคซีนบรรจุขวดมีความบกพร่องกว่า 50 รายการ เช่น รอยแตก รอยรั่ว ปนเปื้อนด้านนอก ชายวัย 61 ปี เผยระหว่างเข้าแถวรอฉีดวัคซีนเข็มที่สองที่ศูนย์กีฬาสวนสาธารณะอนุสรณ์สถานซุนยัตเซนว่า เลือกวัคซีนของไบออนเทคเพราะเคยทำงานกับไฟเซอร์ที่พัฒนาวัคซีนขนานนี้ร่วมกับไบออนเทค จึงมีความมั่นใจ ขณะที่แม่บ้านฟิลิปปินส์วัย 39 ปี บ่นว่า เข้าแถวรอนานกว่าชั่วโมงแล้ว แถวขดไปมาขั้นไปถึงชั้นสอง      ส่วนเรื่องที่ผู้ป่วยมะเร็งวัย 55 ปี และเพื่อนวัย 70 ปีเศษ จองวัคซีนของไบออนเทค แต่เดินทางไปผิดศูนย์ ทำให้ได้รับฉีดวัคซีนของซิโนแวกแทนนั้น ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า วัคซีนทั้งสองขนานปลอดภัยต่อผู้ป่วยมะเร็ง แต่การรักษามะเร็ง เช่น เคมีบำบัดอาจลดการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้วัคซีนมีประสิทธิภาพลดลง จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับวัคซีน