สถานการณ์ต่างประเทศ

8 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงราย ว่า เกิดการชุมนุมเรียกร้องครั้งใหญ่ใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงข้ามกับ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในการคัดค้านการยึดอำนาจรัฐบาลโดยกองทัพเมียนมา โดยการชุมนุมมีการรวมกลุ่มคนกันหลายพันคน ทั้งเดินเท้าและใช้รถจักรยานยนต์ พากันถือป้ายตะโกนเรียกร้องอย่างชัดเจน ซึ่งแตกต่างจากกิจกรรมในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ที่มีเพียงการรวมตัวกันในช่วงเวลากลางคืน แล้วขับขี่จักรยานยนต์และกดแตรไปตามท้องถนน ปล่อยโคมไฟ ตีเคาะอุปกรณ์ต่างๆ เป็นสัญลักษณ์

     สำหรับการชุมนุมเกิดขึ้นท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก แต่ประชาชนชาวเมียนมาจำนวนมากต่างพากันเดินลงสู่ท้องถนนยาวหลายร้อยเมตร ก่อนจะพากันเดินตั้งแต่บริเวณบ้านสันทรายไต ที่อยู่ใกล้เชิงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย ไปตามถนนในตัวเมืองท่าขี้เหล็ก โดยมีการใช้เชือกที่ผูกด้วยป้ายเรียกร้องเป็นแนวด้านข้างและยึดถนนเพื่อการเดินไปจำนวน 1 ช่องจราจร

     จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมชาวท่าขี้เหล็กได้พากันเดินไปตามถนน พร้อมถือป้ายนำด้วยสัญลักษณ์ 3 นิ้ว รูปภาพของนางอองซาน ซูจี อดีตที่ปรึกษาแห่งรัฐและแกนนำพรรคสันนิบาตรแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) และข้อความเรียกร้องให้สนับสนุนการใช้อารยะขัดขืน รวมทั้งมีป้ายอื่นๆที่มีข้อความคัดค้านการยึดอำนาจของกองทัพและสนับสนุนการเลือกตั้งที่ผ่านมา

     นอกจากนี้มีป้ายภาพบุคคลสำคัญๆ อื่นๆ เช่น นาย อู วิน หมินท์ อดีตประธานาธิบดีเมียนมา ฯลฯ ที่ยังถูกจับกุมตัวอยู่ กลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งสวมเสื้อกันฝนและกางร่มต่างพากันเดินขบวนพร้อมส่งเสียงตะโกนเป็นระยะๆขณะที่ผู้ที่ขับขี่รถสัญจรผ่านไปมาก็ชูสามนิ้วเพื่อแสดงสัญลักษณ์สนับสนุนด้วยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกิจกรรมทางการเมืองเช่นนี้แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยใน จ.ท่าขี้เหล็ก หรือทั้งเขตรัฐฉาน ในช่วงเวลาที่ผ่านมา

     สำหรับจุดหมายปลายทางของการเดินขบวนนั้นคือไปยังสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 ซึ่งติดกับตลาดชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย รวมระยะทางประมาณ 2-3 กิโลเมตร ขณะที่สื่อท้องถิ่นของ จ.ท่าขี้เหล็ก ได้มีการไลฟ์สดผ่านเฟชบุ๊คตลอดการชุมนุมดังกล่าว พบว่าการชุมนุมเป็นไปด้วยความสงบท่ามกลางสายฝนที่ทำให้แต่ละคนต่างเปียกปอน และมีประชาชนโดยเฉพาะตามท้องตลาดชูมือสนับสนุนเมื่อขบวนผ่านไป บางคนมีการนำน้ำดื่มและของขบเคี้ยวออกมาแจกจ่ายให้กับผู้ชุมนุมอีกด้วย ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐของเมียนมายังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ต่อการแสดงออกดังกล่าว