สถานการณ์ต่างประเทศ

โรเบิร์ต เจ คอนที ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกรุงวอชิงตัน เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 4 รายในบริเวณพื้นที่อาคารรัฐสภาและอีก 52 คน ถูกจับกุมหลังจากที่กลุ่มผู้ประท้วงที่สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บุกรุกเข้าในภายในอาคารรัฐสภาเพื่อพยายามขัดขวางมิให้ที่ประชุมรัฐสภารับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดน ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

     คอนที เปิดแถลงข่าวในช่วงดึกวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า ในจำนวน 52 คนที่ถูกจับกุมนี้ มี 47 คน ที่ถูกจับในข้อหาละเมิดคำสั่งเคอร์ฟิวของนายกเทศมนตรี ส่วนที่เหลือถูกจับในพื้นที่ของอาคารรัฐสภา หลายคนถูกจับกุมในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการพกพาอาวุธปืนโดยไม่มีใบอนุญาตหรือพบพาอาวุธปืนต้องห้าม นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังพบระเบิดแสวงเครื่อง 2 ลูก ที่ห้องทำงานของคณะกรรมการแห่งชาติของพรรครีพับลิกันและเดโมแครต รวมทั้งพบถังเก็บความเย็นในรถคันหนึ่งที่จอดอยู่บริเวณอาคารรัฐสภา ถังเก็บความเย็นนี้มีระเบิดขวดบรรจุอยู่ คอนที ปฎิเสธที่จะกล่าวถึงรายละเอียดของสตรีที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจของรัฐสภายิงเสียชีวิต โดยระบุเพียงว่ากำลังรอแจ้งญาติของผู้เสียชีวิต ส่วนอีก 3 รายที่เสียชีวิต คอนทีกล่าวว่า เสียชีวิตจากภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์

     ด้าน เคยูเอสไอ สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของเมืองซานดิเอโก รายงานอ้างคำกล่าวของสามีของสตรีที่เสียชีวิตที่ระบุว่า สตรีรายนี้มีนามว่า แอชลี บาบบิตต์ วัย 35 ปี ทำงานกับกองทัพอากาศสหรัฐเป็นเวลา 14 ปี รายงานระบุว่า เธอมาจากเองซานดิเอโก ทางใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย และเป็นผู้สนับสนุนนายทรัมป์อย่างแข็งขัน ตำรวจวอชิงตันยืนยันมีผู้เสียชีวิต แต่ไม่ได้ระบุชื่อหรือรายละเอียดเหตุการณ์ที่มีการยิงกัน โดยระบุว่า ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน แต่สื่อมวลชนรายงานว่าเธอถูกยิงที่บริเวณอกในขณะเกิดการชุลมุนและเหตุรุนแรงด้านนอกอาคารรัฐสภา ซึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบางรายนำปืนออกมาเตรียมพร้อมในขณะที่ผู้ประท้วงเดินหน้าบุกรุกเข้าไปภายในรัฐสภา เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า เธอถูกได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา โทรทัศน์ฟอกซ์ 5 รายงานว่า บาบบิตต์ เปิดธุรกิจในซานดิเอโกร่วมกับสามีของเธอ ซึ่งไม่ได้เดินทางมาร่วมชุมนุมที่กรุงวอชิงตันในครั้งนี้ มีรายงานระบุว่า เธอถูกเจ้าหน้าที่ยิงขณะกำลังปืนหน้าต่างเข้าไปภายในอาคารรัฐสภา แต่ยังไม่มีการยืนยันแต่อย่างใด