
“พลังงานสะอาด” ยังเป็นเทรนด์โลกอยู่ไหม?
17 กันยายน 2568 08:09 น.
กรมอุตุฯ เตือน ไทยฝนเพิ่มขึ้น กทม.ตกหนัก 80% 18 ก.ย. 68 08:09 น.
17 กันยายน 2568 08:09 น.
17 กันยายน 2568 08:09 น.
17 กันยายน 2568 09:09 น.
17 กันยายน 2568 09:09 น.
ผู้แทนสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปหรืออียู เตรียมเจรจาเรื่องข้อตกลงการค้าหลังหลังจากอังกฤษออกจากอียู หรืออเบร็กซิตต่อในวันจันทร์ หลังการเจรจาเมื่อวานนี้ไม่มีความคืบหน้า ยังคงมีความแตกต่างกันอยู่มากในรายละเอียดของข้อตกลง ขณะเหลือเวลาอีกไม่ถึงสองสัปดาห์ที่สหราชอาณาจักร จะออกจากอียูในสิ้นปีนี้
นายมิเชล แบร์นิเยร์ หัวหน้าคณะเจรจาเบร็กซิตของอียู และนายไมเคิลฟรอสต์ หัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาเบร็กซิตของอังกฤษ พบหารือที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันอาทิตย์ แต่การพูดคุยยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ตามคาด และจะพบหารือกันอีกครั้งในวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นกรุงบรัสเซลส์ สื่อรายงานว่า หนึ่งในอุปสรรคใหญ่ในการเจรจาที่เริ่มมาตั้งแต่เบร็กซิตอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมกราคม คือเรื่องการให้อียูเข้าถึงน่านน้ำของสหราชอาณาจักร ซึ่งประกอบไปด้วยอังกฤษ สกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ เพื่อทำประมง นายแบร์นิเยร์ หัวหน้าเจรจรเบร็กซิตของอียูกล่าวถึงการเจรจาว่า มีความยากเย็นอย่างยิ่ง ขณะที่นายไมเคิล โกฟ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรียูเคนแถลงต่อคณะกรรมการในรัฐสภาว่า โอกาสที่จะได้ข้อตกลงการค้ามีไม่ถึงครึ่งหนึ่ง และมีความเป็นไปได้สูงมากที่สหราชอาณาจักรจะออกจากอียูโดยไม่มีข้อตกลงเรื่องการค้า
กลุ่มการเมืองในรัฐสภายุโรปเรียกร้องให้มีข้อตกลงการค้าภายในวันที่ 20 ธันวาคม เพื่อให้รัฐสภาให้สัตยาบันได้ทันภายในสิ้นปีนี้ เพราะการค้าระหว่างสหราชอาณาจักรกับอียูจะต้องมีการตรวจที่ด่านศุลกากรนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปีหน้า ไม่ว่าทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงการค้าหรือไม่ เป็นกระบวนการที่จะส่งผลเสียต่อการขนส่งที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน แต่หากเบร็กซิตโดยไร้ข้อตกลง สินค้าของทั้งสองฝ่ายจะต้องเสียภาษีศุลกากรระหว่างกันตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปีหน้า
ทั้งนี้ ช่วงที่สหราชอาณาจักรยังเป็นสมาชิกในอียู ธุรกิจสองฝั่งทำการค้ากันได้โดยไม่เสียภาษีนำเข้าหรือส่งออก ดังนั้นหากสหราชอาณาจักรไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าใหม่กับอียูได้ สหราชอาณาจักรซึ่งรวมถึงอังกฤษจะไม่ได้รับอภิสิทธิ์ทางการค้าในอียูอีกต่อไป และต้องอยู่ภายใต้กฎหมายขององค์การการค้าโลก ซึ่งจะทำให้ธุรกิจของอังกฤษเสียผลประโยชน์จากที่ต้องเสียภาษีนำเข้าและส่งออกกับประเทศอื่นๆ ในอียู ซึ่งจะส่งผลกระทบตั้งแต่ผู้บริโภคที่จะต้องเผชิญกับราคาสินค้าและบริการที่สูงขึ้น ไปจนถึงผู้ประกอบการต่างๆ ที่เคยมีการค้าระหว่างสองฝ่าย