
“พลังงานสะอาด” ยังเป็นเทรนด์โลกอยู่ไหม?
17 กันยายน 2568 08:09 น.
กรมอุตุฯ เตือน ไทยฝนเพิ่มขึ้น กทม.ตกหนัก 80% 18 ก.ย. 68 08:09 น.
17 กันยายน 2568 08:09 น.
17 กันยายน 2568 08:09 น.
17 กันยายน 2568 09:09 น.
17 กันยายน 2568 09:09 น.
15 ตุลาคม 2563 สื่อต่างประเทศรายงานข่าวอ้างคำกล่าวของ เดวิด นาบาร์โร (David Nabarro) ทูตพิเศษประจำองค์การอนามัยโลก (WHO) ล่าสุดที่ระบุว่า องค์การอนามัยโลกไม่เห็นด้วยกับมาตรการล็อกดาวน์ หรือการสั่งปิดกิจการต่างๆ เป็นวงกว้างเพื่อสกัดช่องทางการระบาดของไวรัสโควิด-19 เพราะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นการกลับลำครั้งสำคัญของหน่วยงานที่ดูแลด้านสุขภาพของชาวโลก
เว็บไซต์ นสพ.Taiwan News ของไต้หวัน เสนอข่าว WHO warns world leaders against COVID-19 lockdowns citing grave economic consequences ระบุว่า นาบาร์โร กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกไม่ต้องการให้มองการล็อกดาวน์เป็นมาตรการหลักในการรับมือไวรัสโควิด-19 เพราะการล็อกดาวน์เป็นเพียงการซื้อเวลาให้รัฐบาลสามารรถรวบรวมและจัดระเบียบทรัพยากร รวมถึงดูแลบุคลากรสาธารณสุขที่อ่อนแรง ซึ่งการล็อกดาวน์ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อยและภาคการท่องเที่ยว รวมถึงปัญหาความยากจน จึงควรเป็นทางเลือกสุดท้าย
ขณะที่สำนักข่าว Fox News สหรัฐอเมริกา เสนอข่าว WHO warns against COVID-19 lockdowns due to economic damage ระบุว่า ก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลกย้ำเตือนอยู่เสมอให้ระมัดระวังการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์อย่างรวดเร็ว แต่วันนี้ นาบาร์โร กลับเปิดเผยว่า องค์การอนามัยโลกต้องการให้การล็อกดาวน์เป็นทางเลือกสุดท้าย พร้อมกับยกผลกระทบต่อประเทศที่พึ่งพาเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว เช่น ในแถบทะเลแคริบเบียนและมหาสมุทรแปซิฟิก และเป็นห่วงว่าในปี 2564 ปัญหาความยากจนและเด็กขาดสารอาหารจะเพิ่มเป็น 2 เท่า
อย่างไรก็ตามหากย้อนไปในช่วงแรกๆที่มีสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส (Tedros Adhanom Ghebreyesus) ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก เตือนประเทศต่างๆ ไม่ให้รีบผ่อนคลายล็อกดาวน์ พร้อมกับให้สนับสนุนมาตรการอื่นๆ เช่น การตรวจหาผู้ติดเชื้ออย่างกว้างขวางและการติดตามกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อ เพื่อให้กิจการต่างๆ กลับมาเปิดได้อย่างปลอดภัยและไม่ต้องล็อกดาวน์อีกเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบอย่างมหาศาลกับสังคม