สถานการณ์ต่างประเทศ

อิสราเอล สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี และบาห์เรน สองชาติอาหรับ ลงนามข้อตกลงสถาปนาความสัมพันธ์ระดับปกติที่ทำเนียบขาวของสหรัฐ โดยมีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเป็นประธานในพิธี

     พิธีลงนามข้อตกลงสถาปนาความสัมพันธ์ระดับปกติระหว่างอิสราเอลและสองชาติอาหรับ คือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี และบาห์เรน มีขึ้นที่สนามด้านใต้ของทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ (15 ก.ย.) ตามเวลาสหรัฐ มีแขกรับเชิญร้อยกว่าคน ทั้งหมดต้องผ่านการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ก่อนเข้าสู่งาน โดยมีการบันทึกภาพการจับมือระหว่างนายกรัฐมนตรีเบนยามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลกับรัฐมนตรีต่างประเทศของยูเออีและบาห์เรน แต่จนขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดข้อตกลงดังกล่าวที่ตะวันออกกลางเรียกว่าข้อตกลงอับราฮัม เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเผยว่า จะเป็นเอกสารร่วมกันหนึ่งฉบับ และเป็นข้อตกลงแยกสองฉบับ

     ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นข้อตกลงประวัติศาสตร์หลังจากอิสราเอลลงนามข้อตกลงสันติภาพกับอาหรับสองประเทศแรกคืออียิปต์ในปี 2522 และจอร์แดนในปี 2537 โดยอิสราเอลตกลงสถาปนาความสัมพันธ์ระดับปกติกับยูเออีเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม และกับบาห์เรนเมื่อวันที่ 11 กันยายน ซึ่งจะทำให้สถานภาพปัจจุบันระหว่างโลกอาหรับกับอิสราเอลเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมที่เคยร่วมใจกันต่อต้านอิสราเอลเรื่องยึดครองปาเลสไตน์ ด้านแกนนำปาเลสไตน์เรียกร้องให้คนชุมนุมประท้วงในดินแดนที่ถูกอิสราเอลยึดครองและตามหน้าสถานทูตสหรัฐ อิสราเอล ยูเออี และบาห์เรน ซึ่งทั้งสี่ประเทศที่ลงนามในข้อตกลงครั้งนี้ล้วนเป็นปรปักษ์กับอิหร่านด้วย

     ข้อตกลงนี้จะเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่อิสราเอล ยูเออีและบาห์เรนในช่วงที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากโรคโควิด-19 ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะได้คะแนนนิยมเพิ่มขึ้นก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในอีกไม่ถึง 2 เดือน เพราะผลการหยั่งเสียงชี้ว่า เขามีคะแนนนิยมตามหลังจากโจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต