สถานการณ์ต่างประเทศ

เกิดเหตุระเบิดอย่างรุนแรงขึ้นที่ท่าเรือในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน มีผู้เสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ศพ บาดเจ็บกว่า 4 พันคน ต้นตอเกิดจาก “แอมโมเนียมไนเตรท” 2 พันตันที่เก็บไว้ในอาคารนาน 6 ปี ผอ.ข่าวกรองเลบานอน เผย เกิดจากอาวุธทำลายล้างสูง ที่มีผู้นำมาซุกซ่อนไว้ภายในโกดังสินค้า ด้าน “โดนัลด์ ทรัมป์” ระบุ เป็นการโจมตีที่โหดร้าย ขณะที่นานาชาติร่วมแสดงความเสียใจและระดมให้ความช่วยเหลือ

     สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เกิดเหตุระเบิดอย่างรุนแรงที่คลังเก็บวัตถุผลิตระเบิด บริเวณท่าเรือในกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. วันอังคารที่ 4 สิงหาคม ตามเวลาท้องถิ่น แรงระเบิดสร้างความเสียหายให้แก่บริเวณท่าเรือและอาคารที่ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก และยังได้ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์แผ่นดินไหวตามมา สามารถวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 3.5 ตามมาตราริกเตอร์ สามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ไกลถึงหมู่เกาะไซปรัส ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทางตอนใต้ของตุรกี โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 100 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกประมาณ 4,000 คน คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตน่าจะเพิ่มขึ้นอีก เวลานี้ยังไม่ทราบสาเหตุของการระเบิดที่แน่ชัด

     ทางด้าน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าวว่า เหตุระเบิดดังกล่าวเป็นการโจมตีที่โหดร้าย และทหารระดับนายพล ได้บอกเขาว่า เหตุการณ์นี้ น่าจะเกิดจากระเบิดบางชนิดที่ยังไม่สามารถระบุได้ และสหรัฐ พร้อมช่วยเหลือชาวเลบานอน

     นายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ ระบุในข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า สหรัฐกำลังเกาะติดสถานการณ์นี้ และพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนเลบานอนอย่างเต็มที่ เมื่อพวกเขาฟื้นตัวจากโศกนาฏกรรมที่รุนแรงในครั้งนี้

     ขณะที่ กลุ่มประเทศแถบอ่าวเปอร์เซียในตะวันออกกลางถือเป็นชาติแรก ๆ ที่ออกมายื่นมือช่วยเหลือเลบานอน ดังเช่นกาตาร์ที่เตรียมจัดส่งโรงพยาบาลสนามเพื่อสนับสนุนด้านการแพทย์ คูเวตจะสนับสนุนความช่วยเหลือทางการแพทย์ฉุกเฉิน ด้านอิสราเอล ประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นปรปักษ์กับเลบานอน พร้อมให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม แม้ว่าจะทั้งสองประเทศจะอยู่ในระหว่างการทำสงครามต่อกัน