สถานการณ์ต่างประเทศ

กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีนได้เร่งตรวจสอบคนกลุ่มใหญ่เพื่อหาว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มเติมหรือไม่เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังเกิดการแพร่ระบาดครั้งใหม่ของโควิด-19 ขึ้น โดยมีต้นตอจากตลาดค้าส่งอาหารซินฟาตี้ที่ได้ถูกสั่งปิดไปแล้ว

    ทางการได้สั่งให้ทุกคนที่เดินทางไปตลาด หรือเคยติดต่อกับคนที่ได้ไปเยือนหรือจับจ่ายซื้อของในตลาดดังกล่าวนับตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา จะต้องรายงานตัวกับต้นสังกัดที่ตนเองทำงานอยู่ หรือหน่วยงานในท้องถิ่นที่พำนักอยู่ รวมทั้งต้องเข้ารับการตรวจว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาด้วยหรือไม่

     หนังสือพิมพ์พีเพิลเดลี่ของทางการจีนได้เผยแพร่ภาพคนจำนวนมากที่มาเข้าแถวยาวเพื่อรอตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาด้านนอกโรงพยาบาลใกล้กับตลาดซินฟาตี้เมื่อวันที่อาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะที่โฆษกของหน่วยงานสาธารณสุขกรุงปักกิ่งแถลงว่า ใครก็ตามที่อาศัยอยู่ในกรุงปักกิ่งและมีไข้ จะต้องเข้ารับการตรวจสอบเพื่อหาเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ตรวจเลือด รวมถึงทำซีทีสแกน โดยผู้คนในปักกิ่งเข้าแถวยาวรอตรวจ

     เบื้องต้นนักระบาดวิทยาของรัฐบาลจีนระบุว่า การตรวจสอบดีเอ็นเอของไวรัสแสดงให้เห็นว่าการแพร่ระบาดครั้งล่าสุดในตลาดซินฟาตี้อาจมีต้นตอมาจากยุโรป หรือเป็นเชื้อนำเข้ามาจากต่างแดน ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการค้นหาความจริงต่อไปว่าเชื้อดังกล่าวเข้ามายังจีนได้อย่างไร โดยมีความเป็นไปได้ว่าเชื้อไวรัสอาจจะมาจากอาหารหรือเนื้อสัตว์ที่ปนเปื้อน หรือแพร่ระบาดจากอุจจาระของคนภายในตลาด

     การระบาดใหม่ดังกล่าวส่งผลให้หลายมณฑลของจีนและมีอย่างน้อย 10 เมืองที่ได้ออกประกาศเตือนการเดินทางภายในประเทศ โดยเฉพาะการเดินทางไปยังกรุงปักกิ่ง โดยขอให้พลเมืองของตนไม่เดินทางไปยังเมืองหลวง หรือต้องมีการรายงานกับเจ้าหน้าที่หากมีการไปเยือนกรุงปักกิ่งเมื่อเร็วๆ นี้

     ย่านฮัวเซียงซึ่งตั้งอยู่ในเขตเดียวกับตลาดค้าส่งอาหาร และเป็นย่านขายรถใช้แล้วที่ใหญ่ที่สุดในจีนได้ปรับเพิ่มระดับการเตือนภัยการระบาดใหญ่ขึ้นสู่ระดับสูงสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยที่เป็นย่านเดียวในประเทศจีนที่มีการเตือนภัยเช่นนี้ ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีการประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจใดๆ จนกว่าการแพร่ระบาดใหญ่จะอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว