สถานการณ์ต่างประเทศ

คณะนักวิจัยในสหรัฐชี้ว่า ประชาชนในแต่ละพื้นที่อาจต้องยอมอยู่บ้านหรืออดทนกับมาตรการปิดเมืองนานกว่า 6 สัปดาห์ ก่อนที่การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในพื้นที่นั้น ๆ จะถูกควบคุมยับยั้งได้

    จากผลการศึกษาที่เผยแพร่ในเอสเอสอาร์เอ็น (SSRN) วารสารแบบเปิดสำหรับงานวิจัยขั้นต้นระบุว่า หลายประเทศที่ดำเนินมาตรการเข้มงวดอย่างการปิดเมือง สั่งให้คนอยู่บ้าน ตรวจหาเชื้อขนานใหญ่ กักโรค อาจเกิดการระบาดปานกลางหลังจากนั้นสามสัปดาห์ อาจควบคุมได้หลังจากนั้นหนึ่งเดือน และอาจยับยั้งได้หลังจากนั้น 45 วัน แต่หากดำเนินมาตรการไม่เข้มงวดก็ต้องใช้เวลานานขึ้น ระยะเวลาเหล่านี้ยังขึ้นอยู่กับขนาด พรมแดน ธรรมเนียมการทักทาย อุณหภูมิ ความชื้น และละติจูดหรือเส้นรุ้งของแต่ละประเทศด้วย ดังนั้นในยามที่ยังไม่มีวัคซีน การรักษา การตรวจหาเชื้อขนานใหญ่ และการกักโรค คำสั่งปิดเมืองและอยู่บ้านจึงต้องใช้ต่อไปหลายเดือน

     สำหรับผลการศึกษาดังกล่าวเป็นการทำงานร่วมกันของคณะนักวิจัยหลายแห่งในสหรัฐ ได้จากการศึกษาตัวอย่างใน 36 ประเทศ และในสหรัฐ 50 รัฐ คณะนักวิจัยสนับสนุนให้ใช้มาตรการเข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นการปิดเมืองอย่างอิตาลีและรัฐแคลิฟอร์เนีย การตรวจหาเชื้อขนานใหญ่และกักโรคอย่างเกาหลีใต้และสิงคโปร์ หรือการใช้ทั้งสองมาตรการอย่างจีน โดยตั้งข้อสังเกตว่าการตรวจหาเชื้อขนานใหญ่และกักโรคดูเหมือนจะประสบความสำเร็จมากกว่าการปิดเมืองและสั่งอยู่บ้านที่ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจรุนแรงกว่า ขณะที่สหรัฐมีปัญหาต่างจากประเทศอื่นตรงที่มีรัฐต่าง ๆ ประมาณครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่ดำเนินมาตรการเข้มงวด และไม่ดำเนินการพร้อมกัน