สถานการณ์ในประเทศ

สศอ.ระบุการระบาดของไวรัสโคโรนา จะทำให้นักลงทุนภาคอุตสาหกรรมเมืองอู่ฮั่น พิจารณาย้ายฐานการผลิตบางอุตสาหกรรมมาไทย

    นายทองชัย ชวลิตพิเชษฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีนอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ และส่งผลกระทบต่อเนื่องมายังการผลิตภาคอุตสาหกรรม อยางไรก็ตาม สินค้าไทยส่งออกไปจีนเฉพาะที่เมืองอู่ฮั่นไม่มาก และกระทบระยะสั้นและไม่มาก เช่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์บางตัว ซึ่งบริษัทญี่ปุ่นในเมืองอู่ฮั่นเรียกพนักงานกลับหมด แต่จะเป็นผลดีระยะยาวที่จะมีการย้ายฐานการผลิตมาไทยในบางอุตสาหกรรม เช่น รถยนต์ เพื่อกระจายความเสี่ยง

    นายทองชัย ยังแถลงดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (MPI) เดือนธันวาคม 2562 ว่า อยู่ที่ระดับ 99.02 หด ร้อยละ 4.35 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา แต่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2562 หดตัวร้อยละ 8.1 ส่งผลให้ภาพรวมดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมตลอดปี 2562 ติดลบร้อยละ 3.7 น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะติดลบร้อยละ 3.8 ตามที่ได้ประมาณการไว้เดือนพฤศจิกายน 2562 ด้านการใช้กำลังการผลิตเดือนธันวาคม 2562 อยู่ที่ร้อยละ 63.96 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2562 ตลอดปี 2562 อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ร้อยละ 66.3

    ส่วนผลกระทบ ได้แก่ สงครามการค้าทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวส่งผลต่อเนื่องมายังการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมของไทย แต่ยังกลับมาเป็นบวกได้ที่ร้อยละ 0.2 การผลิตรถยนต์ลดลงร้อยละ 20.75 และผลผลิตเกษตรสำคัญหลายตัวลดลง เช่น อ้อยลดลงร้อยละ 15.23 ปาล์มน้ำมัน ลดลงร้อยละ 20.85 สับปะรด ลดลงร้อยละ14.72 ส่งผลต่ออุตสาหกรรมต่อเนื่อง

     สำหรับประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่อการผลิตเดือนมกราคม 2563 ได้แก่ มูลค่าการนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูปไม่รวมทองคำปรับตัวดีขึ้น เป็นสัญญาณดีต่อการผลิตภาคอุตสาหกรรมในช่วงเวลาข้างหน้า สถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน อาทิ ฝุ่น PM 2.5 และการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีน อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ ส่วนปัจจัยในประเทศ คือ มาตรการช่วยเหลือเงินทุนให้กับเอสเอ็มอีของรัฐบาล.