SMART NEWS

นายกรัฐมนตรียอมรับเป็นห่วงกรณีไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีที่ จ.ระยอง 23 เม.ย. 67 14:04 น.

กิจกรรม

รองนายกสมคิดฯ มอบนโยบายสร้างมูลค่าจากสินทรัพย์ พัฒนาท่าเรือให้ทันสมัยครบวงจร เร่งอีก 3 ปีข้างหน้าพัฒนาเป็นระบบ AI

views

     เมื่อวันนี้ (14 มีนาคม 2562) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และคณะ พร้อมด้วย
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางมาตรวจเยี่ยมกิจการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) และรับฟังความคืบหน้าการดำเนินโครงการพัฒนาที่สำคัญ โดยมีนายสมศักดิ์ ห่มม่วง ประธานกรรมการ กทท. กรรมการ กทท. เรือโท กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการ กทท. และผู้บริหาร กทท. ให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุมชั้น 19 อาคารที่ทำการ กทท. และในโอกาสเดียวกันนี้ได้ตรวจเยี่ยม การปฏิบัติงานภายในเขตรั้วศุลกากร กทท. ด้วย

     ในการนี้ ผู้อำนวยการ กทท. ได้บรรยายสรุปผลการดำเนินการตั้งแต่ปี 2559-2562 (คาดการณ์ทั้งปี) ทั้งปริมาณเรือเทียบท่า ตู้สินค้า และปริมาณสินค้ามีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งรายงานผลการดำเนินโครงการพัฒนาที่สำคัญ ประกอบด้วย โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 การดำเนินการตาม พ.ร.บ. ร่วมทุน ปี 2556 ท่าเทียบเรือ B2 B3 B4, การพัฒนาพื้นที่ท่าเรือกรุงเทพฝั่งตะวันตก (Smart Port) การปรับปรุงและพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่ง 20G, แผนการพัฒนาการใช้ประโยชน์พื้นที่ (บริหารสินทรัพย์), โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยของชาวชุมชนโดยรอบ กทท. (Smart Community),โครงการเชื่อมโยง Data Logistic Chain ด้วยระบบ Port Community System, แผนการพัฒนาท่าเรือระนอง และโครงการพัฒนาการเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าในกรอบความร่วมมือในกลุ่มประเทศ BIMSTEC

     ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้กำลังใจฝ่ายบริหารและแนวคิดในการพัฒนา 3 โครงการใหญ่ให้กับ กทท. ซึ่งเริ่มที่การบริหารสินทรัพย์ที่มีอยู่ให้เกิดมูลค่าสูงสุด โดยศึกษาแนวทางการพัฒนาจากท่าเรือปูซาน ซึ่งเป็นทั้งท่าเทียบเรือ แหล่งท่องเที่ยว และคอมมูนิตี้คอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ รวมทั้งการพัฒนาท่าเรือกรุงเทพที่มีทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวง โดยให้ฝ่ายบริหารหาแนวทางพัฒนาโครงการต่างๆ และวางเป้าหมายให้เป็นระบบ ครบวงจร หากทำได้จะก่อให้เกิดประโยชน์มูลค่ามหาศาลกับองค์กรและประเทศชาติ ส่วนการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังขั้นที่ 3 ควรมีแนวร่วม (Consortium) กลุ่มทุนด้านโลจิสติส์จากต่างประเทศมาร่วมด้วย เนื่องจากเป็นโครงการทุกประเทศยอมรับและผลักดันให้เกิด และเมื่อได้บริษัทที่ผ่านการประมูลรอบสองในเดือนเมษายนนี้แล้ว ขอให้การดำเนินโครงการเป็นไปด้วยความราบรื่นและทำทุกอย่างด้วยความโปร่งใส

     สำหรับโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยของชาวชุมชนโดยรอบ กทท. (Smart Community) ได้เร่งให้เริ่มก่อสร้างภายในปี 2563 โดยต้องมีเป้าหมายให้ชาวชุมชนอยู่สบาย สามารถใช้ชีวิตและประกอบอาชีพได้ตามปกติ อาจจะไม่ต้องหรูหรามาก แต่อยู่แล้วสบายใจ คิดว่าชาวชุมชนทุกคนน่าจะเห็นด้วยและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

     ส่วนแผนการพัฒนาท่าเรือระนอง (ทรน.) อยากให้เป็นโครงการที่เร่งด่วน เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าทางเรือจากจีน ในเบื้องต้นให้พัฒนาเป็นสองระยะ โดยระยะแรกพัฒนา ทรน. ให้ทันสมัยเชื่อมโยงรถไฟรางคู่ที่ชุมพร ระยะที่สอง ให้พิจารณาบริเวณทะเลน้ำลึกทางใต้ ทรน. ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้พัฒนาบุคลากรควบคู่ไปกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยกล่าวว่าอีกไม่กี่ปีข้างหน้าระบบทุกอย่างจะขับเคลื่อนด้วย AI จึงแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเพื่อพัฒนาระบบต่างๆของ กทท. ให้ทัดเทียมท่าเรือชั้นนำระดับโลก.

TW-headbar