สถานการณ์ในประเทศ

ที่ประชุมคณะกรรมการสรรหากรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ครั้งที่ 5 วันนี้ (5 ธ.ค.) นายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานการประชุม เชิญผู้สมัครที่มีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้าม จำนวน 15 คน มาเข้ารับการสัมภาษณ์ และแสดงวิสัยทัศน์ ภายหลังการรับฟังตามกระบวนการสรรหาเสร็จสิ้นแล้ว ที่ประชุมลงมติเลือกผู้สมัคร ที่สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็น กกต. 5 คน ดังนี้ นายเรืองวิทย์ เกษสุวรรณ อดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ ,นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.,นายอิสสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ , นางชมพรรณ์ พงษ์เจริญสุธีรชาติ ที่ปรึกษากฎหมาย บริษัท วรวิสิฏฐ์ จำกัด และ หัวหน้าสำนักงานกฎหมายสุธีรชาติ และนายประชา เตรัตน์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัด นราธิวาส , ชลบุรี และสุราษฎร์ธานี โดยผู้ที่ได้รับการคัดเลือกดังกล่าว ได้รับคะแนนเสียงถึง 2 ใน 3 ของจำนวนทั้งหมด เท่าที่มีอยู่ของคณะกรรมการสรรหา กกต. นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.ในฐานะกรรมการ สรรหา กล่าวว่า วันที่ 7 ธ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.คณะกรรมการสรรหาฯ จะประชุมกันเพื่อ รับรองมติการประชุมครั้งนี้ ก่อนเสนอให้ สนช.พิจารณาต่อไป ส่วนจะบรรจุเข้าวาระ การพิจารณาของ สนช.วันไหน ยังไม่ทราบ ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนเรื่องการไม่ผ่านการคัดเลือกจากปัญหาคุณสมบัตินั้น ที่ประชุม คณะกรรมการสรรหาฯ พิจารณาแล้ว เป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณาไปตามกฎหมายที่วางไว้ จะไปเปลี่ยนหลักเกณฑ์ได้อย่างไร โดยกรรมการสรรหา ยืนยันในมติเดิม กรณีที่ผู้สมัคร ถือเป็นผู้ถือหุ้นในสื่อนั้น กรรมการสรรหามีบรรทัดฐานในครั้งก่อน ๆ อยู่แล้ว หากมีการ เปลี่ยนแปลงก็จะไม่เป็นธรรมกับผู้ที่ถูกตัดสิทธิจากเข้ารับการสรรหาในองค์กรอิสระอื่น ๆ นอกจากนั้น เป็นกรณีของการดำรงตำแหน่งที่ไม่ครบตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ ทั้งนี้ ในส่วนของการเลือกผู้สมควรได้รับแต่งตั้งเป็น กกต. อีก 2 คนจากที่ประชุมใหญ่ ศาลฎีกานั้น ทราบจากข่าวว่าขณะนี้ได้มาแล้ว 1 คน โดยวันพรุ่งนี้ (6 ธ.ค.) ที่ประชุมใหญ่ ศาลฎีกา จะประชุมเพื่อลงมติเลือกอีก 1 คนที่เหลือ