สถานการณ์ในประเทศ

หลังศาลฎีกามีคำพิพากษายกคำร้องของ นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตข้าราชการครู จ.สกลนคร ที่ร้องทุกข์ให้รื้อฟื้นคดี โดยอ้างว่าตกเป็นแพะในคดีขับรถชนคนตาย เมื่อปี 2548 เนื่องจากเห็นว่าพยานหลักฐานที่นำมาเบิกความไม่น่าเชื่อถือ ทำให้ตำรวจกำลังดำเนินการเพื่อเอาผิดบุคคลในกระบวนการว่าจ้างให้ติดคุกแทนครูจอมทรัพย์ พันตำรวจโทจิตต์ ศรีโยหะ อดีต ส.ว.จังหวัดมุกดาหาร ออกมายืนยันว่า ตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง รู้เห็น เกี่ยวกับการกระทำดังกล่าว เพียงแต่ได้รับการประสานจาก นายสุริยา นวลจริญ หรือครูอ๋อง , นายสับ วาปี และญาติ 10 คน ขอเข้าพบเพื่อปรึกษาด้านกฎหมายกรณีรถยนต์ชน มีผู้เสียชีวิต เพราะตนเองเคยสอบสวนคดีจราจรมากว่า 20 ปี โดยอ้างว่า ถ้านายสับ วาปี เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนในท้องที่เกิดเหตุ ทำอย่างไร ถึงจะไม่ถูกลงโทษจำคุก ซึ่งได้แนะนำไปว่า ถ้าทำจริง ชนจริง หนีไปจริง ก่อนไปมอบตัว ก็ขอให้ไปพบญาติผู้ตายก่อน เพื่อปรึกษาและตกลงกันว่าจะเรียกร้องค่าเสียหาย ค่าปลงศพ เท่าไหร่ โดยให้บันทึกไว้ด้วยและนัดวันไปพบพนักงานสอบสวน เมื่อตกลงความเสียหายได้ ให้ไปแถลงต่อศาล ขอความเมตตา จะถูกลงโทษ แต่รอลงอาญา ไม่น่าติดคุก เพราะเคยทำคดีแบบนี้มาหลายคดี แต่จากนั้นก็ไม่มีการติดต่อกับบุคคลกลุ่มนี้อีก ผ่านไป 4 ปี เมื่อ 8 มกราคม 2560 จึงทราบข่าว นางจอมทรัพย์ และนายสับ วาปี ไปแถลงข่าวที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เพื่อมอบตัวและขอรื้อฟื้นคดีใหม่เท่านั้น พันตำรวจโทจิตต์ ศรีโยหะ กล่าวด้วยว่า ไม่รู้จักนางจอมทรัพย์ และนายสุริยา เพียงให้คำปรึกษากฎหมาย เหมือนบุคคลทั่วไปที่มาขอรับคำปรึกษาเท่านั้น