สถานการณ์ในประเทศ

นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน ชี้แจงเสียงวิพากษ์วิจารณ์โครงการจัดซื้อเครื่องสแกนม่านตา เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์แรงงานต่างด้าว ของกระทรวงแรงงานว่า ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ได้จัดซื้อ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีความคิดเห็นตรงกันว่า จำเป็นจะต้องเสริมเครื่องสแกนม่านตา เพื่อภารกิจในการพิสูจน์อัตลักษณ์แรงงานต่างด้าว เพราะปัจจุบันมีใช้อยู่เพียง 30 เครื่องใน 22 จังหวัด ซึ่งเป็นเครื่องที่ยืมมาจากกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม เพื่อใช้ในการขึ้นทะเบียนแรงงานประมง แต่ชำรุดไป 3 เครื่อง อาจจะเพียงพอเฉพาะการพิสูจน์อัตลักษณ์แรงงานประมง 7 หมื่นคน ที่ต้องแล้วเสร็จในเดือน มี.ค.ปีหน้า เพื่อเร่งแก้ปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย โดยขณะนี้ดำเนินการไปแล้วกว่า 3 หมื่นราย ขณะที่กรมการจัดหางาน ยังมีส่วนที่ต้องรับผิดชอบแรงงานต่างด้าวทั่วประเทศอีกกว่า 2 ล้านคน ที่ต้องพิสูจน์อัตตลักษณ์ให้แล้วเสร็จในคราวเดียวกัน ดังนั้น การวางระบบพิสูจน์อัตลักษณ์ของแรงงาน จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก และได้รับการยอมรับใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลกด้วย ปลัดกระทรวงแรงงาน ชี้แจงต่อว่า สำหรับราคาต่อเครื่องที่ประมาณ 1 แสนบาทนั้น ยืนยันว่าเป็นราคามาตรฐาน อย่างไรก็ตาม รายละเอียดการจัดซื้อ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของ คณะกรรมการพิจารณาการเก็บข้อมูลพิสูจน์ตัวบุคคลของแรงงานต่างด้าว ที่ คสช.ตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน ยืนยันจะพิจารณาใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพคุ้มค่ามากที่สุด เพราะถ้าประเมินมูลค่าการเก็บข้อมูลม่านตา ที่แม่นยำกว่าการตรวจสอบข้อมูลด้วยลายนิ้วมือถึง 100 เท่า หรือใบหน้า 10 เท่า ก็ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุน