สถานการณ์ในประเทศ

พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยภายหลัง การประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ หรือ กคพ.ครั้งที่ 1/2560 ที่มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในการประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า ดีเอสไอ เสนอให้ บอร์ด กคพ.ลงมติรับคดีทั่วไปเป็นคดีพิเศษ จำนวน 7 คดี แต่บอร์ด กคพ.มีมติให้รับไว้ สอบสวนเป็นคดีพิเศษ 4 คดี ได้แก่ 1.คดีกล่าวหาว่ามีขบวนการฟอกเงินเกี่ยวกับการทุจริตในการทำธุรกรรมทางการเงิน ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือ สกสค. กับบริษัทบิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด กับพวก 2.คดีกล่าวหาสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน เชนลิสซิ่ง จำกัด มีพฤติการณ์เข้าข่ายความผิด ฐานฉ้อโกงประชาชนและหลีกเลี่ยงภาษีอากร 3.กรณีบริษัท เอ็ม-แลนดาร์ช จำกัด กับพวก ร่วมกันฉ้อโกงหรือลวงขายเรื่องตรวจหา สารเสพติด ยี่ห้อ อัลฟ่า 6 ที่ไม่มีประสิทธิภาพให้กับกรมยุทธการทหาร กองบัญชาการ กองทัพไทย และ 4.คดีขบวนการฟอกเงิน อันเนื่องมาจากการทุจริตสัญญาระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ตามโครงการรับจำนำข้าว ระหว่างปี 2554-2555 ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ได้ดำเนินคดีทางแพ่งกับนายอภิชาต จันทร์สกุลพร หรือ เสี่ยเปี๋ยง อดีตนักธุรกิจค้าข้าวชื่อดัง ผู้ก่อตั้ง บริษัทสยามอินดิก้า จำกัด ไปแล้ว จึงต้องการให้ดีเอสไอดำเนินคดีอาญา ส่วนคดีฟอกเงินจากทุจริตค่าโฆษณา ของบริษัทไร่ส้ม จำกัด ที่นางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด อดีตพนักงานจัดทำคิวโฆษณาของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ได้จัดทำคิวโฆษณารวม ในรายการ “คุย คุ้ยข่าว” โดยใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต ไม่รายงานการโฆษณาเกินเวลา เพื่อเรียกเก็บค่าโฆษณาเกินเวลา จากบริษัทไร่ส้ม จำนวน 17 ครั้ง ทำให้ บริษัท อสมท เสียหาย 138,790,000 บาท บอร์ด กคพ.ยังไม่รับเป็นคดีพิเศษ โดยสั่งการให้ดีเอสไอ ไปรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม