สถานการณ์ในประเทศ

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัย น้ำไหลหลากและน้ำเอ่อล้นตลิ่ง จากอิทธิพลของพายุดีเปรสชัน รวมถึงการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา ตั้งแต่วันที่ 10 – 29 ต.ค. ทำให้เกิดน้ำไหลหลากและน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ในพื้นที่ 23 จังหวัด รวม 78 อำเภอ 473 ตำบล 2,785 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 125,372 ครัวเรือน 325,212 คน ผู้เสียชีวิต 10 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 17 จังหวัด รวม 59 อำเภอ 398 ตำบล 2,245 หมู่บ้าน แยกเป็น ลุ่มน้ำยม จังหวัดสุโขทัย น้ำท่วม 4 อำเภอ ลุ่มน้ำยมและลุ่มน้ำน่าน จังหวัดพิจิตร 8 อำเภอ ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ 4 อำเภอ , อุทัยธานี 2 อำเภอ , สิงห์บุรี 4 อำเภอ , ลพบุรี น้ำเอ่อล้นตลิ่งท่วมพื้นที่อำเภอบ้านหมี่ อ่างทอง 5 อำเภอ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หนักสุด น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วม 7 อำเภอ ประชาชนได้รับผลกระทบ 37,463 ครัวเรือน และจังหวัดปทุมธานี 2 อำเภอ ลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำท่าจีน 1 จังหวัด คือ ชัยนาท 5 อำเภอ ลุ่มน้ำท่าจีน 1 จังหวัด คือ จังหวัดสุพรรณบุรี 4 อำเภอ ลุ่มน้ำชี 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดหนองบัวลำภู 3 อำเภอ , ขอนแก่น 3 อำเภอ , มหาสารคาม 3 อำเภอ , กาฬสินธุ์ 2 อำเภอ และร้อยเอ็ด น้ำท่วมพื้นที่อำเภอจังหาร ลุ่มน้ำมูล ได้รับผลกระทบ 1 จังหวัด คือ จังหวัดอุบลราชธานี น้ำท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ อธิบดี ปภ.กล่าวด้วยว่า ปภ.ได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง ตลอดจนติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติม เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังสู่ลำน้ำสายหลัก ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง