สถานการณ์ในประเทศ

อิทธิพลพายุเซินกา ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาพังเหย และภูแลนคาไหลหลากท่วมหลายพื้นที่ในเขต อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ โดยที่หนักสุดอยู่ที่เขื่อนลำคันฉู น้ำล้นสันเขื่อนสูงกว่า 1 เมตร ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเสียหายต่อเนื่องเป็นระลอกที่ 3 ในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา ล่าสุดระดับน้ำยังท่วมสูงกว่า 1-2 เมตร ประชาชนกว่าพันครอบครอบครัวได้รับผลกระทบ พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายนับหมื่นไร่ ในเขตรอยต่อ ต.หนองแวง ต.เกาะมะนาว ต.บ้านเพชร ต.หัวทะเล และล่าสุดเริ่มทะลักท่วมในตำบลใกล้เคียงเป็นวงกว้าง ตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา ชาวบ้านต้องขนของหนีน้ำออกจากพื้นที่ มีชาวบ้านถูกตัดขาดกว่า 167 หลังคาเรือนใน 2 ตำบล คือ ต.หัวทะเล ในหมู่บ้านหัวทะเล หมู่ 1, บ้านกุ่ม หมู่ 3, บ้านโนนสะอาด หมู่ 9 และบ้านหัวสะพาน หมู่ 10 และในหมู่บ้านท่าศาลา หมู่ 2 และใน ต.บ้านตาล อ.บำเหน็จณรงค์ นายชูศักดิ์ ตรีสาร ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ สั่งระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่ช่วยเหลือ โดยยืนยันว่าจังหวัดรับมือสถานการณ์ดังกล่าวได้ ไม่อยากให้ประชาชนแตกตื่น โดยเฉพาะข้อกังวลเรื่องท่วมในย่านเศรษฐกิจหลักของ อ.บำเหน็จณรงค์ รวมทั้งโรงพยาบาลนั้น ขอประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง โดยระดับน้ำใน อ.บำเหน็จณรงค์ จะเริ่มลดลง และระบายออกไปสู่ อ.จัตุรัส เข้าบึงละหานต่อไป คาดว่าสถานการณ์น้ำจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มในช่วง ไม่เกิน 7 วัน ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยภูมิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือประชาชน ในพื้นที่เทศบาลตำบลบ้านเพชร ตลาดคำปิง หมู่21ที่ยังคงมีน้ำไหลผ่านอีกเป็นจำนวนมากเร่งดำเนินการขนย้ายเก็บสิ่งของขึ้นที่สูง รวมทั้งในเขต ต.บ้านตาล ที่เป็นทางเชื่อมต่อเข้า อ.จัตุรัส ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพิ่มเติมช่วยระบายน้ำแล้ว ไม่มีผลกระทบต่อโรงพยาบาลบำเหน็จณรงค์ รวมทั้งที่ อ.แก้งคร้อ ในเขตรอยต่อ 4 ตำบล ของตำบลแก้งคร้อ, หนองไผ่, ช่องสามหมอ และตำบลบ้านแก้ง ล่าสุดวันนี้ ระดับน้ำในชุมชนลดลงต่อเนื่อง คาดว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ในอีกไม่เกิน 2-3 วันนี้