สถานการณ์ในประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองสกลนคร ยังน่าห่วง และ อยู่ในภาวะเฝ้าระวัง แม้รอบนอก ถนนหลายสาย ระดับน้ำจะลดลงแล้ว แต่ภายในเขตเทศบาล ยังมีน้ำท่วมขัง ขณะที่โรงยิมของศูนย์กีฬา อบจ.สกลนคร ซึ่งเป็น 1 ใน 3 จุด ที่ใช้เป็นศูนย์อพยพผู้ประสบภัย มีชาวบ้านหนีน้ำท่วมมาพักพิง กว่า 300 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง คนชรา และเด็ก ที่เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน เข้าไปช่วยเหลือออกมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ นอกจากที่ศูนย์อพยพที่นี้แล้ว ยังมีศูนย์อพยพ อีก 2 แห่ง คือที่หอประชุม อบจ.หลังเก่า และวัดป่าสุทาวาส ซึ่งมีประชาชนมาพัก ประมาณ 50 คน ขณะที่ เมื่อเวลา 03.00 น. ที่ผ่านมา นายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ว่าราชการจังหวัด สกลนคร ลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์ และวางแผนการช่วยเหลือประชาชน ที่ยังติดอยู่ในบ้าน โดยสั่งการให้ทุกภาคส่วน ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ นำเรือท้องแบน เข้าไปรับชาวบ้านออกมา สำหรับแผนการช่วยเหลือในวันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกัน ประเมินสถานการณ์ชั่วโมงต่อชั่วโมง หากพบว่าสถานการณ์น้ำอยู่ในระดับทรงตัว คือ ไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม ก็จะเร่งเข้าไปให้ความช่วยประชาชนที่อยู่ด้านใน แต่ที่ต้องเฝ้าระวังคือ มวลน้ำที่อยู่บนเทือกเขาภูพานที่อาจจะไหลลงมาอีกละลอกหนึ่ง ขณะที่การเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำสำคัญ อย่างอ่างเก็บน้ำห้วยทราย ที่รองรับน้ำ จากเทือกเขาภูพาน ผู้ว่าฯ สกล ระบุว่า มีมวลน้ำที่ล้นจากสปิลเวย์ และเซาะคันดิน ในบริเวณใกล้กับสปินเวย์ ทำให้เป็นรอยลึกประมาณ 4 เมตร กว้าง 20 เมตร ทำให้น้ำ ที่อยู่ในอ่างเก็บน้ำที่มีอยู่ประมาณ 240 ล้านลูกบาศก์เมตร ทะลักออกไปตามรอยแยก แต่ยืนยันว่า อ่างเก็บน้ำไม่ได้พัง และมวลน้ำที่ทะลักออกไปไม่ได้ไหลเข้ามาท่วม ในตัวเมืองสกลนคร สำหรับผลกระทบจากน้ำท่วมหนักในครั้งนี้ มีชุมชนในเขตเทศบาลนครสกลนคร ได้รับผลกระทบ 43 ชุม ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่กว่า 30,000 คน บ้านถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร รถยนต์ถูกน้ำท่วม อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากสถานการณ์ น้ำท่วมในครั้งนี้ มีเพียงอาการป่วยไข้จากพายุฝน ซึ่งทางจังหวัดได้ส่งแพทย์เข้าไป ให้ความช่วยเหลือ และเนื่องจากระดับน้ำในเขตเทศบาล ยังท่วมสูง เจ้าหน้าที่ จึงจำเป็นที่จะต้องตัดไฟฟ้า เพื่อป้องกันอันตราย ขณะเดียวกัน ได้เฝ้าระวังอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะโรงพยาบาล ซึ่งประสานไปยังป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อนำ เครื่องปั่นไฟฟ้ามาสำรองไว้ใช้ในโรงพยาบาล ( ภาพจาก คมชัดลึก )