สถานการณ์ในประเทศ

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. เปิดเผยว่า ขณะนี้มีบุคคลที่ชอบโทรศัพท์ชักชวนประชาชนผู้เอาประกันภัยให้เข้าร่วมโครงการบริหารกรมธรรม์ประกันชีวิต อ้างว่าเป็นการให้คำปรึกษา วิเคราะห์ และบริหารกรมธรรม์ให้ฟรี เนื่องจากเป็นบริการหลังการขาย โดยผู้ชักชวนจะสร้างแรงจูงใจ อธิบายถึงสิทธิประโยชน์ที่จะเพิ่มขึ้น มีการเปรียบเทียบผลประโยชน์ที่เป็นจำนวนเงินความคุ้มครองที่ผู้เอาประกันภัยจะได้รับภายหลังการให้บริการ แต่ไม่ได้อธิบายถึงข้อเท็จจริงหรือสิทธิประโยชน์ที่ผู้เอาประกันภัยจะเสียไป เช่น สิทธิโต้แย้งในการยกเลิกกรมธรรม์ เงินคืนตามกรมธรรม์ประกันชีวิตเดิมที่จะได้รับเงินปันผลอื่นๆ ตามสัญญาประกันภัย หรือถ้าเป็นสัญญาแนบท้ายประกันสุขภาพ ก็ต้องเริ่มนับระยะเวลารอคอยใหม่ รวมถึงอาจมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เลขาธิการ คปภ. กล่าวต่อว่า พฤติกรรมของผู้ที่โทรศัพท์เพื่อชักชวนประชาชนผู้เอาประกันภัย ในลักษณะนี้ ผู้ชักชวนจะจบการสนทนาด้วยการแนะนำให้ผู้เอาประกันภัยหยุดชำระ เบี้ยประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแบบสะสมทรัพย์ เพื่อ ต้องการให้ผู้เอาประกันภัยซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบใหม่ สำนักงาน คปภ. จึงขอเตือน ประชาชนผู้เอาประกันภัยพิจารณาให้รอบคอบ เพราะการชักชวนดังกล่าวมีการให้ข้อมูล ที่ไม่ครบถ้วน และไม่เป็นไปตามหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย อีกทั้งการเปลี่ยนแปลง หรือ การยกเลิกสัญญากรมธรรม์เก่าเพื่อซื้อกรมธรรม์ใหม่ ผู้เอาประกันภัยจะถูกคิดค่าใช้จ่าย ซ้ำซ้อนจำนวนมาก ดังนั้นการชักชวนในลักษณะนี้จึงเป็นอันตรายร้ายแรงต่อผลประโยชน์ของ ผู้เอาประกันภัย ขณะนี้สำนักงาน คปภ.กำลังตรวจสอบว่าบุคคลที่มีพฤติกรรมโทรศัพท์ชักชวนผู้เอาประกันภัย ดังกล่าว มีตัวแทนหรือนายหน้าประกันภัยเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เพราะการกระทำ อาจหมิ่นเหม่ต่อการกระทำผิดประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการออก การเสนอ ขายกรมธรรม์ประกันภัย และการปฏิบัติหน้าที่ของตัวแทนประกันชีวิต นายหน้าประกันชีวิต และธนาคาร พ.ศ.2551 ซึ่งมีบทลงโทษถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาต