หาดใหญ่ เช้านี้วิกฤตหนัก มวลน้ำก้อนใหญ่ทะลักระลอกสอง
24 พฤศจิกายน 2568 09:11 น.
ราคาทองวันนี้ (24 พ.ย. 68) ปรับลง 150 บาท รูปพรรณบาทละ 63,100 บาท 24 พ.ย. 68 09:11 น.
24 พฤศจิกายน 2568 09:11 น.
21 พฤศจิกายน 2568 10:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
กรณีเด็กชายวัย 15 ปี มารักษาพยาบาลด้วยอาการปวดท้อง โดยญาติร้องว่าบุคลากรทางการ แพทย์ปล่อยให้รอจนเกิดภาวะช็อกแล้วเสียชีวิต สาเหตุมาจากอาการเส้นเลือดใหญ่โป่งพอง ในช่องอกแตก ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการรอคิวรักษาในโรงพยาบาล นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ต้องขอแสดงความ เสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งโรคที่เป็นนั้นเกิดขึ้นได้ยาก และไม่ได้พบได้บ่อย บางครั้ง ในชีวิตของแพทย์บางคนอาจไม่พบเลย จึงไม่อยากให้ประชาชนมองเป็นตัวอย่าง ว่า หาก รอนานจะมีผลเสีย เพราะระบบของการแพทย์ทั่วโลกทุกคนต้องรอคิว แต่สิ่งที่สำคัญคือ กระบวนการคัดกรอง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการในเรื่องนี้ โดยเมื่อไปถึง สถานบริการก่อนที่จะมีการตรวจ จะมีการวัดความดัน ตรวจชีพจร หากพบความผิดปกติ จะมีการคัดกรองว่า มีความเร่งด่วนมากน้อยหรือพอนั่งรอได้ อย่างไรก็ตาม หากนั่งรอแล้ว เกิดมีอาการไม่พึงประสงค์ ก็น่าจะมีช่องทางให้สามารถไปบอกกับเจ้าหน้าที่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายต้องเข้าใจกันซึ่งกันและกัน เนื่องจากทุกฝ่ายอยากได้รับบริการที่รวดเร็วและดีที่สุด แต่ก็ต้องเข้าใจในจำนวนของเจ้าหน้าที่ด้วย นพ.ปิยะสกล กล่าวต่อว่า จากกรณีที่เกิดขึ้น กระทรวงสาธารณสุขพร้อมที่จะปรับปรุง ให้ระบบบริการดีขึ้น ซึ่งทุกโรงพยาบาลกำลังหาทางแก้ไข ทั้งเรื่องการเข้าพบแพทย์ และ ได้รับการตรวจที่เร็วที่สุด โดยขณะนี้มีการพัฒนาหลายรูปแบบ อาทิ กระจายระบบการตรวจ ไม่ให้มากระจุกที่โรงพยาบาลจังหวัด หรือโรงพยาบาลศูนย์อย่างเดียว โดยตั้งคลินิกหมอ ครอบครัว ซึ่งตั้งเป้าว่าภายใน 10 ปี จะมีคลินิกหมอครอบครัวรอบโรงพยาบาลขนาดใหญ่ สามารถดูแลคัดกรองได้อย่างรวดเร็ว หากมีปัญหาต้องส่งต่อไปโรงพยาบาลใหญ่ ก็สามารถ ส่งได้โดยตรง ส่วนระบบนัดหมาย ก็จะใช้เทคโนโลยีที่ทำให้มีความรวดเร็วมากขึ้น เช่นเดียวกับ ระบบจ่ายยา ซึ่งตนเชื่อว่าโรงพยาบาลทุกสังกัด พยายามที่จะทำให้ประชาชนได้รับการดูแลที่ดีที่สุด ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ต้องขอแสดงความเสียใจ กับทางครอบครัว สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระทรวงสาธารณสุขมีการตั้งคณะกรรมการ สอบข้อเท็จจริงแล้วว่า การรักษาเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ เพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับ ทุกฝ่าย ซึ่งจะทราบผลภายใน 2-3 วัน ส่วนเจ้าหน้าที่ก็น่าเห็นใจ เพราะว่าทำงานหนักอยู่แล้ว