สถานการณ์ในประเทศ

น.ส.อำพันธ์ ธุววิทย์ ผู้แทนจากสำนักงานประกันสังคม มองว่า คนที่ได้คือผู้ประกันตนเพราะระยะเวลาการทำงานของคนทำงานจะมีมากขึ้น การออมก็จะเกิดมากขึ้น เงินบำนาญจะเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งในเดือน ส.ค.นี้ สปส.จะทำประชาพิจารณ์อีกครั้งว่าการขยายเวลาจะเป็นอย่างไร ด้านนางสุนทรี หัตถี เซ่งกิ่ง ผู้แทนแรงงานนอกระบบ หรือแรงงานตามมาตรา 40 กล่าวว่า การขยายเรื่องบำนาญรับเงินชราภาพของผู้ประกันตน มีผลกระทบต่อประชาชนแน่นอน เมื่อเทียบว่าให้ข้าราชการรับบำนาญตอนปี 2565 หลังเกษียณอายุราชการ 60 ปี จะยอมรอรับเงินอีก 5 ปีได้หรือไม่ เหมือนที่รัฐกำลังจะออกกฎเกณฑ์ให้ผู้ใช้แรงงานต้องรอรับเงินบำนาญฯ ไปอีก 5 ปี นรัฐบาลชอบคิดแทนคนอื่น แล้วความเสมอภาคเท่าเทียมอยู่ตรงไหน และอยากเสนอให้รัฐสามารถเพิ่มเงินบำนาญของผู้ประกันตนขึ้นจาก 3,000 บาทต่อเดือนได้หรือไม่ เพื่อให้เพียงพอต่อการดำรงชีวิตหลังเกษียณอายุงาน อย่าคิดว่ามีประชาพิจารณ์แล้วจะมีผลต่อการตัดสินใจของรัฐหรือเปลี่ยนใจรัฐบาลได้ ถ้ามีประชาพิจารณ์วันไหน ขอให้เตรียมไปปิดห้องจะดีกว่า ส่วนนายมานิตย์ พรหมการีย์กุล ผู้แทนกรรมการประกันสังคมฝ่ายลูกจ้าง กล่าวว่า หลายคนคงไม่มีงานทำในช่วงระหว่างรอรับบำนาญฯ 5 ปี และไม่มีเงินมาส่งเข้าระบบจนถึงอายุ 60 ปี ซึ่งผู้ประกันตนเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ จึงอยากให้ใช้แนวทางสมัครใจมากกว่า มองว่าในอนาคตหากไม่มีการคิดเรื่องความมั่นคงของกองทุนก็จะผลักภาระให้ลูกหลานในตลาดแรงงานได้ ขณะที่นายสมพร ขวัญเนตร ผู้แทนคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย มองว่าเรื่องนี้เป็นการลิดรอนสิทธิคนที่ทำงานในอุตสาหกรรมหนัก การประชาพิจารณ์คงทำไปเพียงตามขั้นตอน ถ้ารัฐไม่ฟังเสียงประชาชน ก็จะเสียทั้งหมด แต่ถ้ามาคุยกันจะมีทางออก ( ภาพประกอบข่าว )