สถานการณ์ในประเทศ

นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านกลไกในการ ปราบปรามการทุจริต คณะกรรมาธิการวิสามัญป้องกันและปราบปรามการทุจริต หรือ สปท. แถลงความคืบหน้า การฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐ คือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และบริษัทเอกชนที่เป็นคู่สัญญากับรัฐ เป็นคดีที่ 2 กรณีคณะกรรมการบริหาร ทอท. ขณะนั้น อนุมัติลดรายได้ตนเองจากสัญญาที่ต้องรียกเก็บแบ่งผลประโยชน์ตั้งแต่ปีแรกถึง 5 ปี ปีละ 15% ปีที่ 6-10 เพิ่มปีละ 1% แต่คณะกรรมการฯอนุมัติเยียวยาชดเชยและลดรายได้ เลื่อนการส่งรายได้และต่อสัญญาให้ผู้ประกอบการ โดยอ้างเหตุว่ากลุ่มพันธมิตรปิดสนามบิน 10 วัน และเศรษฐกิจโลกตกต่ำ ลดรายได้และ ต่อสัญญาให้แก่ บริษัท คิงพาวเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ซึ่งอ้างว่าอยู่ในอำนาจที่ทำได้ ไม่เข้าข่าย พระราชบัญญัติร่วมทุน เพราะเป็นโครงการที่ไม่เกินพันล้านบาท โดยมีหลักฐานยืนยันว่า ทอท. และคิงพาวเวอร์ ใช้เอกสารที่ไม่ชอบไปแสดงต่อศาล จนก่อให้เกิดความเสียหายนับ หมื่นล้านบาท อีกทั้งจงใจเจตนาเอื้อประโยชน์ให้เอกชนได้รับผลประโยชน์ตามต้องการ โดยไม่รักษาผลประโยชน์รัฐและผู้ถือหุ้นรายย่อย จึงจะยื่นต่อศาลทุจริตและประพฤติมิชอบ เป็นคดีที่ 2 ให้ดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ ทอท.และเอกชน โดยขอให้ศาลริบทรัพย์เข้าแผ่นดิน และลงโทษผู้กระทำผิด นายชาญชัย ชัย อิสระเสนารักษ์ ยืนยันด้วยว่า ไม่ได้เป็นการฟ้องซ้อนกับคดีที่เคยยื่นไปแล้ว เมื่อ 5 ก.ค. กรณีก่อนทำสัญญาอนุญาตประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากรในท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ ทอท.ไม่ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงาน หรือดำเนินการ ในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 และมีการใช้ข้อความอันเป็นเท็จไปยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง เพื่อยุติคดี เพราะเป็นคณะกรรมการคนละชุดและต่างสัญญากัน