หาดใหญ่ เช้านี้วิกฤตหนัก มวลน้ำก้อนใหญ่ทะลักระลอกสอง
24 พฤศจิกายน 2568 09:11 น.
ราคาทองวันนี้ (24 พ.ย. 68) ปรับลง 150 บาท รูปพรรณบาทละ 63,100 บาท 24 พ.ย. 68 09:11 น.
24 พฤศจิกายน 2568 09:11 น.
21 พฤศจิกายน 2568 10:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
นายธรรมนูญ อัตโชติ ประธานชมรมคุ้มครองสิทธิสมาชิกเจ้าหนี้รายย่อยสหกรณ์เครดิตยูเนียน คลองจั่น จำกัด นำผู้เสียหายเข้ายื่นหนังสือคัดค้านการถอนอายัดทรัพย์ของกลาง ตามที่ผู้บริหารสหกรณ์ฯ นำคำสั่งศาลแพ่งมาบังคับให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ถอนอายัดทรัพย์ของกลาง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอสังหาริมทรัพย์ โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ เป็นผู้รับคำร้อง นายธรรมนูญ กล่าวว่า ตนและผู้เสียหายจากคดียักยอกฉ้อโกงสหกรณ์คลองจั่นฯ ต้องการให้ ดีเอสไอ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ป.ป.ง. ช่วยติดตามทรัพย์คืน เพื่อนำมาเฉลี่ยคืนเจ้าหนี้รายย่อย เนื่องจากที่ผ่านมา การทำคดีนี้พบว่าทรัพย์สินที่ดีเอสไอ และ ป.ป.ง.ตรวจสอบพบ มีเป็นจำนวนมาก และบางส่วนถูกโอนไปให้บุคคลอื่นถือครองแทน แต่ ผู้บริหารสหกรณ์ฯ กลับไปทำยอมความรับคืนเงินเพียง 321 ล้านบาท ซึ่งเกรงว่าจะทำให้ ผู้เสียหายไม่ได้รับการเฉลี่ยทรัพย์คืน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าผู้บริหารสหกรณ์ฯ ยื่นฟ้องในทางแพ่ง จะได้รับชำระเพียงมูลค่าความเสียหาย แต่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการติดตามทรัพย์ และค่าทนายความ 3% โดยคำนวณจากมูลค่าทรัพย์ 3,811 ล้านบาท จะเป็นค่าทนาย จำนวน 114 ล้านบาท หากให้ดีเอสไอ และป.ป.ง.ดำเนินคดี และติดตามทรัพย์ในคดีฟอกเงินจะสามารถเรียกคืนทรัพย์สินที่ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น กับพวก ยักยอกและฟอกเงินได้พร้อมกับดอกผล โดยไม่ต้องจ่ายค่าทนายความ นายธรรมนูญ กล่าวต่อว่า การยอมความกับนายศุภชัยที่เคยทุจริตและยักยอกจนนำไปสู่การ ขอถอนคดี โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายในคดีอื่นๆ ซึ่งยังอยู่ระหว่างการดำเนินคดีอีกจำนวนมาก จนศาลยกคำร้องไม่ให้ถอนคดี แต่ก็ยังมีความพยายามเดินหน้าขอถอนคดีในชั้นฎีกา อีกทั้งปัจจุบันพนักงานและกรรมการสหกรณ์ที่เคยร่วมทีมกับอดีตประธานสหกรณ์ฯ ที่ร่วมกันฉ้อโกง ก็ยังคงทำงานตามปกติ จึงส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการบริหารงานของสหกรณ์ในช่วงที่มีการฟื้นฟูกิจการ ในการฟ้องคดีแพ่ง ศาลสั่งให้นายศุภชัยชดใช้ค่าเสียหายให้กับสหกรณ์ 3,811 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ขณะที่ความเสียหายของสหกรณ์มากกว่า 10,000 ล้านบาท โดยนายศุภชัยนำไปซื้อที่ดินแล้วโอนให้คนอื่นถือครองแทน ซึ่งเป็นการฟอกเงิน หากมีนายทุนนำเงินมาชำระคืน 3,811 ล้านบาท เพื่อถอนอายัดของกลาง ก็จะได้ที่ดินคืนกลับไป เพราะปัจจุบันที่ดินดังกล่าวมูลค่าสูงกว่าราคาซื้อขายในปีที่เกิดปัญหาการยักยอก ดังนั้น หากยอมให้มีการถอนอายัด จึงเกรงว่าลูกหนี้รายย่อยจะไม่ได้รับคืนความเสียหายเลย ด้าน พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า จะนำคำร้องของกลุ่มสมาชิกสหกรณ์ไปเสนอให้อธิบดีดีเอสไอพิจารณา เนื่องจากในคดีนี้มีคำสั่งศาลเรื่องการถอนอายัดของกลาง หากผลการพิจารณาจะเป็นอย่างไร ก็พร้อมจะแจ้งให้ผู้ร้องรับทราบต่อไป