สถานการณ์ในประเทศ

พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยถึงการประชุม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.มีมติเรื่องการออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2560 ซึ่งมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการ และประชาชน ที่อาศัยตามแนวลำน้ำ รวมถึง วิถีชีวิตการทำประมง โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวต่อที่ประชุมว่า ถ้าเจ้าหน้าที่ในอดีต มีความเข้มงวด ดำเนินตามหลักกฎหมาย ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น แต่เมื่อรัฐบาลนี้ ต้องการจะปรับ แก้ไขให้กลับไปสู่สิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย ต้องมีระยะเปลี่ยนผ่าน โดยประชาชนที่มีรายได้น้อย จะต้องไม่ได้รับผลกระทบกระเทือน . พลโท สรรเสริญ กล่าวอีกว่า โดยกฎหมายฉบับล่าสุด ระบุว่าการสร้างเรือนแพ โรงแรม บ้านริมน้ำ กระชังเลี้ยงปลา รวมถึง หลักที่ปักผูกเสาเรือ ถือเป็นการรุกล้ำเขตลำน้ำทั้งสิ้น แต่กฎหมายยังได้ระบุอีกว่า ใครก็ตามที่คิดว่าตัวเองทำผิดตามกฎหมายนี้ ให้ไปแจ้ง กรมเจ้าท่าภายใน 4 เดือน ซึ่งได้ครบกำหนดไปในวันที่ 22 มิ.ย. ที่ผ่านมา​ โดยมีผู้แจ้งกับ เจ้าหน้าที่ประมาณ 30,000 ราย ในขณะที่การสำรวจพบว่ามีผู้รุกล้ำลำน้ำทั้งประเทศ ประมาณ 100,000 กว่าราย โดยสาเหตุที่คนมาแจ้งน้อยไม่ถึงครึ่ง ก็เพราะว่าเป็นการ ยอมรับว่าทำผิดกฎหมาย ต้องเสียค่าปรับ 50 บาทต่อตางรางเมตร แต่ถือว่ายังแพง ประชาชนได้รับผลกระทบ แต่ถ้าไม่แจ้งจะต้องโดนปรับ 1,000 - 20,000 บาท ต่อตารางเมตร และโดนปรับวันละไม่เกิน 20,000 บาท หากไม่รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ภายในเวลาที่กำหนด . พลโท สรรเสริญ กล่าวต่อไปว่า ด้วยเหตุนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้ออกคำสั่งยืดระยะเวลา ให้ประชาชนสามารถแจ้งเพิ่มเติมได้ เบื้องต้นเพิ่มเวลาไปอีก 60 วัน