สถานการณ์ในประเทศ

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อน พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. เข้าหารือถึงปัญหาทุจริตเงิน อุดหนุนวัดว่า ไม่ได้เป็นการประชุมเป็นทางการ เป็นเพียงการเชิญมาพูดคุยเพื่อสอบถาม อะไรบางอย่าง หรือ พ.ต.ท.พงศ์พรอาจจะมีอะไรแนะนำบางอย่าง เพราะไม่ได้มีการตั้งหลัก ว่า จะหารือกันถึงเรื่องอะไรบ้าง ทางพศ.อยากจะชี้แจงอะไรก็ให้ชี้แจง ว่า ได้ทำอะไร ไปถึงไหนบ้างแล้ว ไว้เมื่อหารือเสร็จได้ความแล้วตนจะมาเล่าให้ฟังอีกครั้ง เพราะขณะนี้ ตนยังไม่มีข้อมูลอะไรทั้งสิ้น ส่วนจะมีการออกกฎหมายเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ตนจะนั่งคิดเอง หลังหารือเสร็จ ไม่จำเป็นต้องหารือกับทางพศ. . นายวิษณุ กล่าวถึงกรณีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. เห็นชอบร่างพ.ร.บ. การจัดทำ ยุทธศาสตร์ชาติว่า หลังจากพ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ มีผลบังคับใช้ กำหนดให้มีการ ตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน จากนั้นให้มีการตั้ง คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ จะมีชุดเดียวหรือหลายชุดก็ได้ เพื่อจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ให้เสร็จภายใน 120 วัน จากนั้นส่งให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติพิจารณาเพื่อเสนอ คณะรัฐมนตรี และส่งไปให้ สนช.พิจารณา โดยคณะกรรมการชุดนี้จะติดตาม หรือ มอนิเตอร์ ไปด้วยเป็นเวลา 5 ปีว่า ใครไม่ปฏิบัติตามจะได้ฟ้องหรือรายงานมา ยุทธศาสตร์ชาติถือเป็น เรื่องใหญ่มาก ถ้าฝ่าฝืน ทำผิด หรือขัดแย้ง เรื่องจะไปถึงคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ ถึงขั้นติดคุก ต้องถอดถอนกัน . ส่วนเรื่องปฏิรูป นายวิษณู กล่าวว่า จะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง จะไม่มีซุปเปอร์บอร์ด เหมือนกับ ยุทธศาสตร์ชาติ แต่จะตั้งเป็นการปฏิรูป 11 ด้าน มี 11 คณะ คณะละกว่า 10 คน โดยจะ มาทำหน้าที่แทนสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท. ซึ่งจะมีเวทีกลางที่ประธาน แต่ละคณะมาประชุมกัน ตกลงกติกาบางอย่าง แต่ไม่ได้มาในลักษณะจัดทำแผนปฏิรูป แห่งชาติ เมื่อเรียบร้อยแล้วให้เสนอ ครม.เมื่อพิจารณาเสร็จจึงประกาศใช้ แผนปฏิรูป จะยืดหยุ่นคล่องตัวกว่า ปรับเปลี่ยนอะไรกันได้ง่ายกว่า แต่ยุทธศาสตร์ชาตินั้น ปรับได้ แต่ปรับยาก