สถานการณ์ในประเทศ

นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กล่าวกรณี กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. ส่งมอบสำนวนคดีทุจริตเงินอุดหนุนวัดให้ ป.ป.ช.ไต่สวนว่า หากสำนวนใดมี พยานข้อมูลหลักฐานชัดเจน จะเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาตั้งคณะ- อนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง ในวันพรุ่งนี้ (22 มิ.ย.) คาดว่ามีบางสำนวนที่สามารถตั้ง อนุกรรมการได้เลย ไม่จำเป็นต้องสอบพยานใหม่ เว้นแต่เห็นว่ายังขาดข้อมูลบางประเด็น สามารถเรียกพยานสอบเพิ่มเติมได้ ทั้งนี้ เป็นไปได้ที่บทสรุปของ ป.ป.ช.จะเป็นไปใน ทิศทางเดียวกับ ปปป. หรือตำรวจ อย่างไรก็ตาม ในส่วน ป.ป.ช. เมื่อตั้งคณะอนุกรรมการ ไต่สวนแล้วจะเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาเข้ามาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาได้อย่างเต็มที่ เช่น กรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาอ้างว่ามีพยานหลักฐานใหม่มาแก้ข้อกล่าวหา จำเป็นต้องรับฟัง และ ตรวจสอบว่าพยานหลักฐานใหม่น่าเชื่อถือหรือไม่ หากน่าเชื่อถือ คำตัดสินอาจเปลี่ยนแปลงได้ . เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวอีกว่า นอกจาก 12 สำนวนที่ได้รับมาแล้ว ป.ป.ช.ยังมีสำนวนคดี ที่อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อเท็จจริงอีกกว่า 60 สำนวน ที่มีลักษณะความผิดเช่นเดียวกัน และผู้ที่เข้าข่ายความผิดในระดับบริหารเป็นคนกลุ่มเดียวกัน แต่ระดับปฏิบัติขึ้นอยู่กับ เจ้าหน้าที่แต่ละท้องที่ ซึ่งไม่สามารถนำสำนวนมารวมสอบได้ เนื่องจากต่างกรรมต่างวาระกัน แต่สามารถสอบสวนไปพร้อมกันได้ และเมื่อส่งฟ้องก็ต้องถูกลงโทษในทุกความผิด