สถานการณ์ในประเทศ

ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายสุนทร ทรงฤกษ์ ผู้พิพากษา หัวหน้าคณะในศาลฎีกา พร้อมองค์คณะรวม 9 คน นั่งพิจารณาคดีครั้งแรก เพื่อสอบคำให้การ จำเลย คดีที่ร้อยตำรวจตรี พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อายุ 64 ปี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นจำเลย ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่ มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. มีมติต้นเดือน ก.พ.2560 ชี้มูลความผิดทางอาญา นายสุรพงศ์ กรณีออกหนังสือเดินทางให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูก ออกหมายจับในคดีร่วม นปช.ก่อการร้าย และคดีอื่นๆ เมื่อปี 2554 ซึ่งขัดต่อระเบียบ ข้อบังคับกระทรวงการต่างประเทศ ว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548 ข้อ 21 (2) (3) และ (4) . โดยอัยการ ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาฯ เมื่อกลางเดือน มี.ค.2560 ซึ่งนายสุรพงษ์ ได้ยื่น หลักทรัพย์ หลักล้านบาทประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี โดยศาลอนุญาตให้ประกันตัว พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล ทั้งนี้ นายสุรพงษ์ เดินทางมาพร้อมทนายความ โดยนายสุรพงษ์ได้ใช้ไม้เท้าค้ำยันช่วยเดิน . นายสุนทร ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน ได้อ่านคำฟ้องโดยสรุปให้ นายสุรพงษ์ จำเลยฟัง ซึ่งนายสุรพงษ์ ยืนยันให้การปฏิเสธ ตามคำให้การที่ยื่นต่อศาล เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.2560 โดยองค์คณะฯ พิจารณาแล้ว จึงกำหนดนัดตรวจพยานหลักฐานต่อไป ในวันที่ 27 ก.ค.นี้ เวลา 09.30 น. และกำหนดวันนัดไต่สวนพยานทั่งสองฝ่ายในเบื้องต้นไว้ก่อน 3 วัน คือ วันที่ 24, 29 ส.ค. และวันที่ 13 ก.ย.นี้ ตั้งแต่เวลา 09.30 - 16.00 น. . ภายหลังเสร็จสิ้นการพิจารณา นายสุรพงษ์ กล่าวว่า คดีนี้ศาลอนุญาตให้ประกันตัว ตีราคา หลักทรัพย์ 3 ล้านบาทโดยมีเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล ส่วนเรื่องคดีในฐานะจำเลย ตนไม่อยากพูดอะไรมาก . ขณะที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ตัวแทนนายสุรพงษ์ กล่าวว่า มีการเตรียมความพร้อม นำพยานให้ศาลไต่สวนไว้แล้ว แต่จะมีพยานกี่ปากนั้น จะต้องรอดูหลังจากวันที่คู่ความ ได้ยื่นเอกสารต่อศาลแล้ว . ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพยานของอัยการฝ่ายโจทก์นั้น มีพยานบุคคลไม่เกิน 10 ปาก ขณะที่พยานซึ่งฝ่ายจำเลย เตรียมไว้ประมาณ 20 ปาก ซึ่งหลังจากนี้จะต้องรอดูการเสนอ บัญชีพยานและประเด็นการไต่สวนของทั้งสองฝ่ายอีกครั้ง ในวันที่ 27 ก.ค.นี้ ก่อนที่องค์คณะฯ และคู่ความ จะร่วมสรุปพยานที่จะเข้าไต่สวนว่าแต่ละฝ่ายจะได้ไต่สวนกี่ปาก