สถานการณ์ในประเทศ

วันนี้ เวลา 08.30. ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการ ทหารบก ให้สัมภาษณ์ ก่อนเดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานในพื้นที่รับผิดชอบของ กองกำลังบูรพา จ.สระแก้ว ที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศกัมพูชา ว่า คงไม่ใช่ทางด้าน ตะวันออกอย่างเดียวที่มีอาวุธสงคราม แต่มีทุกด้าน ปัจจุบันแม้ว่าความขัดแย้งในรอบพื้นที่ ประเทศ จะยุติลงแล้ว ยังมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ทำธุรกิจที่ผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด อาวุธ สงคราม ที่มีการซื้อขายกัน ทำเป็นกระบวนการ ในส่วนของกองทัพจะต้องดูแลทั้งในส่วน ของภายในประเทศ และพื้นที่บริเวณชายแดน ซึ่งวันนี้ ตนจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมกองกำลัง บูรพา จะเร่งรัดในการควบคุมพื้นที่ตามแนวชายแดน และรับทราบสถานการณ์ในปัจจุบัน รวมทั้งช่วยแก้ไขปัญหา ตนไม่ได้กังวลเรื่องอาวุธสงครามเพียงอย่างเดียว แต่กังวลใน ทุกๆ เรื่อง อะไรที่จะสามารถช่วยแก้ปัญหาให้กองกำลังบูรพาได้ ก็จะดำเนินการ . ผู้บัญชาการทหารบก ยังกล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการจัดซื้อรถเกราะล้อยาง VN1 จำนวน 34 คัน จากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน งบประมาณ 2,300 ล้านบาทว่า การเดินทางไปลงนาม การซื้อขายโครงการดังกล่าวกับประเทศจีนนั้น เป็นหน้าที่ของ พล.อ.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งได้วางแผนไว้ ซึ่งไม่แน่ใจว่า จะเดินทางไปภายในต้นเดือนนี้ หรือต้นเดือนหน้า ทั้งนี้ การจัดหายานเกราะล้อยาง VN 1 เป็นการดำเนินงานตามกรอบงานของกองทัพในปี 2560 ถึง 2564 . เมื่อถามว่าเหตุใดถึงต้องซื้อจากประเทศจีน เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์หรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า ในการจัดหายุทโธปกรณ์ จะมีปัจจัยหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง ที่สำคัญที่สุด ก็คือความเหมาะสมในการใช้งานกับกองทัพไทย รวมถึงราคา ช่วงที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า สถานการณ์ที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของ คสช. การซื้อยุทโธปกรณ์จากประเทศตะวันตก ค่อนข้างจะลำบาก และในสภาวะที่ประเทศมีปัญหาด้านเศรษฐกิจ ดังนั้น การจัดซื้อ ยุทโธปกรณ์จากประเทศจีนที่มีราคาถูกกว่า และคุ้มค่ากับการใช้งาน ถือเป็นจังหวะเวลา และโอกาสที่เหมาะสม ทั้งนี้ ในการพิจารณายานเกราะล้อยาง ได้ดูทั้งของจีน รัสเซีย และ ยูเครน มีการส่งคณะกรรมการเดินทางไปดูและเปรียบเทียบในทุกๆ ด้าน ทั้งราคาคุณภาพ และการส่งกำลังบำรุง ซึ่งคณะกรรมการทั้งหมดได้สรุปว่าของจีน เหมาะสม